เพราะ “ของขวัญ” อยู่คู่กับทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันครบรอบ วันคริสต์มาส วันปีใหม่ วันแต่งงาน ฯลฯ ก็จะมีการมอบของขวัญ เพื่อเป็นการแสดงความยินดี การต้อนรับ หรือเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุข แต่เคยไหมที่เรามักจะได้รับของขวัญที่ได้มาแล้วไม่เคยได้นำมาใช้ ได้แต่เก็บไว้ให้เปลืองพื้นที่บ้าน จะทิ้งก็เสียดาย หรือเกรงใจผู้ให้ หรือแม้แต่เราจะเลือกซื้อของขวัญให้คนอื่น แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะซื้ออะไรให้ดี ที่ผู้รับสามารถนำไปใช้ได้จริง แต่บทความนี้ได้รวบรวมของขวัญที่คนวัยทำงานได้รับแล้วนำไปใช้ได้จริงแน่ๆ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
1. กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค / กระเป๋าแล็ปท็อป
มนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่ จะต้องมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ใช้ในการทำงานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป หรือโน๊ตบุค ดังนั้นกระเป๋าจึงเป็นอีกไอเทมที่มีประโยชน์แน่นอน เพราะจะช่วยถนอมเครื่องมือทำงานอย่างแล็ปท็อปหรือโน๊ตบุ๊คไม่ให้เป็นรอยขีดข่วน และยังเพิ่มความสะดวกในการพกพาอีกด้วย และต่อให้เขา/เธอมีกระเป๋าอยู่แล้ว เชื่อเถอะ ยังไงก็ได้ใช้ และการเลือกกระเป๋า ควรเลือกกระเป๋าโน๊ตบุ๊คกันกระแทก กระเป๋าแล็ปท็อปกันน้ำได้ ป้องกันรอยขีดข่วน และสามารถจุของได้เยอะ เพราะหลายคนเลยทีเดียวที่ต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่างในการทำงาน และพยายามเลือกสีพื้นๆ สีสุภาพ จะเหมาะสมที่สุด
2. คีย์บอร์ดไร้สาย / เมาส์ไร้สาย
คีย์บอร์ดไร้สาย หรือเมาส์ไร้สาย ก็ตอบโจทย์คนทำงานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ ยิ่งถ้าเป็นสายที่ต้องหอบหิ้วอุปกรณ์ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ บางแห่งหรือบางช่วงเวลาก็ไม่สะดวกที่จะพกโน๊ตบุ๊คไปด้วยได้ แต่เมาส์ไร้สาย หรือคีย์บอร์ดไร้สาย ที่สามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธได้จะกลายเป็นของขวัญล้ำค่าสำหรับคนเหล่านี้ไปเลย เพราะพวกเขาจะได้ทำงานผ่านมือถือได้สะดวกและคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งเดี๋ยวนี้คีย์บอร์ดไร้สายมีคุณภาพดีๆ จำหน่ายในราคาไม่แพงมีให้เลือกเยอะมาก ถ้านึกไม่ออก ก็ตรงดิ่งไปศูนย์จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีได้เลย
3. สมุดจดตารางงาน (Planner Book)
อีกไอเทมที่เป็นตัวช่วยอันดับต้นๆของพนักงานออฟฟิศ ที่มักจะมีตารางงานแน่น ซึ่งบางโปรเจ็คก็ต้องมีการวางแผนงานระยะยาว หรือคิวนัดประชุมแน่นเอี๊ยด จนบางครั้งสลับกันบ้าง หลงลืมบ้าง ทั้งวุ่นวายและทำให้พลาดงานสำคัญๆอีก ดังนั้นสมุดตารางงาน หรือสมุดแพลนเนอร์ที่คุณเลือกให้เป็นของขวัญ ย่อมจะได้นำไปใช้ประโยชน์แน่ๆ ยิ่งถ้าเล่มปกเป็นสีโปรดของผู้รับ สมุดพกพาง่าย สีกระดาษอ่านง่าย รับรอง ยิ่งทำให้คนรับปลื้มแน่ๆ
4. พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank)
ในเมื่อโทรศัพท์คือปัจจัยที่ 5 ของคนยุคปัจจุบันไปแล้ว พาวเวอร์แบงค์ ก็อาจถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 6 ได้เช่นกัน เพราะมีการใช้งานโทรศัพท์แทบจะตลอดเวลา ยิ่งถ้าต้องใช้ประกอบในการทำงานด้วย ยิ่งทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์หมดเร็วขึ้น การที่มีพาวเวอร์แบงค์ไว้สำรอง ย่อมช่วยให้อุ่นใจได้มาก ยิ่งถ้าแบตหมดช่วงกำลังเดินทาง หรือกำลังประชุมสำคัญผ่านโทรศัพท์ พาวเวอร์แบงค์ก็จะช่วยแก้สถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปได้ เมื่อถึงเวลานั้น เชื่อเถอะ เขาอาจจะนึกขอบคุณคุณหลายร้อยรอบที่ให้พาวเวอร์แบงค์เป็นของขวัญกับเขาก็ได้
5. แก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ
ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โรคระบาด ของใช้อีกประเภทหนึ่งที่ควรแยกไว้ใช้ส่วนตัวก็คือ “แก้วน้ำ” โดยเฉพาะในสถานที่มีคนอยู่ร่วมกันอย่างสำนักงาน ออฟฟิศต่างๆ เพราะการใช้ชีวิตแบบ new normal ไม่ควรใช้แก้วน้ำสาธารณะ หรือต่อให้เป็นแก้วในครัวออฟฟิศที่มีการล้างแล้วก็ตาม ดังนั้น การเลือกแก้วน้ำ โดยเฉพาะแก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ ที่ช่วยเก็บรักษาความร้อนได้นาน และเก็บความเย็นได้ดี และมีขนาดที่พอเหมาะต่อการพกพา ก็เป็นอีกไอเดียของขวัญ ที่ผู้รับได้มีโอกาสใช้แน่นอน ยิ่งถ้าผู้รับเป็นผู้ดูแลสุขภาพอยู่เสมอ ย่อมไม่พลาดต่อการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายไปพร้อมๆกับการรักษาสุขอนามัยในเวลาเดียวกัน
6. กล่องเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียน
ไอเทมที่ไม่น่าจะอยู่ในสายตา แต่เชื่อเถอะ เมื่อได้รับแล้ว ยังไงก็ต้องได้ใช้ เพราะบนโต๊ะทำงานของมนุษย์ออฟฟิศมักจะเต็มไปด้วยสารพัดสิ่ง ทั้งเครื่องเขียน กระดาษเอกสาร โพสอิท แฟ้มเอกสาร ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่วางเต็มกระดาน เมื่อมีกล่องใส่อุปกรณ์เครื่องเขียน จะช่วยให้เก็บของได้เป็นระเบียบมากขึ้น หยิบใช้งานสะดวก และไม่รกตาจนหาไม่เจอ ถึงแม้คนได้รับอาจจะมีกล่องใส่ของอยู่แล้ว แต่ยังไงก็มีโอกาสได้นำไปใส่อุปกรณ์อื่นๆบนโต๊ะแน่นอน ยิ่งเดี๋ยวนี้กล่องใส่เครื่องเขียนมีแบบให้เลือกเยอะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสไตล์วินเทจ หรือ กล่องมินิมอลน่ารักๆ เป็นทั้งกล่องใส่ของและของประดับโต๊ะในเวลาเดียวกัน เก๋ๆ
7. หมอนสุขภาพ / เบาะรองหลัง
เหล่ามนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่กับโรคออฟฟิศซินโดรมมักจะคู่กัน แม้ว่าจะไม่มีใครต้องการเลยสักคน เพราะการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ การนั่งท่าเดิมๆ ทำให้ถูกโรคออฟฟิศซินโดรมคุกคามได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณ คอ บ่า ไหล่ หลัง และเอว หากได้ตัวช่วยดีๆ อย่างหมอนสุขภาพ เช่น หมอนรองคอ หมอนสูญญากาศ หรือ เบาะรองหลัง เพื่อช่วยลดอาการปวดคอ ปวดหลัง ไอเทมนี้นอกจากจะได้ใช้งานจริงแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยในสุขภาพของผู้รับด้วย เป็นของขวัญประทับใจแน่นอน
8. ไม้นวดหลัง / ที่นวดเท้า
แม้ว่าโรคยอดฮิตของพนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่มักจะเป็นอาการปวด คอ บ่า ไหล่ แต่ เท้า ก็เป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่ถูกใช้กันมากในแต่ละวัน ยิ่งใครที่ต้องทำงานโดยยืนทั้งวัน เดินมาก หรือใส่ส้นสูงทำงาน ยิ่งยืนบนส้นสูงตลอดวันด้วย จนเท้าแทบจะร้องไห้อ้อนวอนขอพักบ้าง หรือปวดเท้าไปถึงเอวและหลังกันเลยทีเดียว บางคนอาจใช้วิธีแช่เท้าในน้ำอุ่นเมื่อกลับถึงบ้าน แต่อีกวิธีที่ง่ายกว่า และทำได้เลยเมื่อถึงบ้าน คือ การขี้นไปเหยียบๆ ย่ำๆ บนที่นวดเท้า ซึ่งมีทั้งแบบปุ่ม หรือแบบกะลามะพร้าวให้เลือก รวมไปถึงไม้นวดหลัง ไอเทมเหล่านี้จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้าและบริเวณฝ่าเท้าได้เป็นอย่างดี จะไว้ที่บ้านหรือพกไปทีทำงานด้วยก็ได้ ดังนั้น พยายามเลือกขนาดที่คิดว่าน่าจะสะดวกต่อการพกพาด้วย ก็จะช่วยตอบโจทย์ให้ผู้รับได้มากขึ้น และนี่ก็เป็นอีกไอเทม ที่น่านำไปเป็นไอเดียในการให้เป็นของขวัญเช่นกัน
9. กระเป๋าผ้า
อย่าได้มองข้ามกระเป๋าผ้า เพราะคิดว่าไม่เหมาะกับคนวัยทำงาน ยิ่งคนทำงานนี่แหล่ะ ที่ควรจะยิ่งรู้คุณค่าในการรักษ์โลก ยิ่งปัจจุบันนี้ ห้างสรรพสินค้าหลายๆแห่งยังคงงดการให้ถุงพลาสติก การพกถุงผ้าติดตัวไว้ ย่อมดีกว่าแน่นอน ทั้งปลอดภัยว่าไม่ต้องถือของให้หนักหากเผลอไปซื้อของที่ไม่มีถุงให้ และยังดูเท่ ดูเทรนด์ และรู้จักรักษ์โลกอีกด้วย ยังไงคนรับต้องได้มีโอกาสใช้ถุงผ้าแน่นอน พยายามเลือกถุงผ้าสีพื้นๆ สุภาพๆเข้าไว้ เพื่อให้ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย
ไอเดียของขวัญที่นำมาฝากนี้ นอกจากผู้รับจะได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ ยิ่งถ้าเป็นสีโปรด หรือแอบสืบรู้ว่าของเดิมของเขาเก่าแล้ว หรือกำลังจะเปลี่ยนใหม่พอดี ยิ่งทำให้คนรับประหลาดใจ ดีใจ และประทับใจ จนรีบนำไปใช้ทันที เพียงเท่านี้ ของขวัญ จากคุณ ก็ไม่เป็นหม้ายหรือกองแอ้งแม้งอยู่ในลังแน่นอน