โยคะคนท้อง กายบริหารที่ช่วยให้คุณแม่แข็งแรงและคลอดง่าย

Total
0
Shares

“โยคะ“ (YOGA) ศาสตร์แห่งการผนวก ร่างกาย จิตใจ และ วิญญาณ หลอมรวมกันอย่างสมดุล เป็นการฝึกกายบริการ ควบคู่ไปกับการฝึกหายใจ และกระบวนการความคิด ให้จดจ่อกับลมหายใจเข้า-ออก ก่อให้เกิดสมาธิ สามารถทำความเข้าใจถึงระบบร่างกายและความเป็นตัวตน

โยคะสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย และทุกที่โดยไม่จำกัด เพราะโยคะเป็นการออกกำลังกาย ที่ใช้พื้นที่ไม่มาก และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานที่ที่ต้องการ นอกจากนั้น โยคะ เป็นกายบริหารที่ช่วยยืดเส้นภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี เป็นกีฬาที่นุ่มนวล แก้อาการออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็สามารถเล่นท่าโยคะได้ โดยไม่มีอันตราย

โยคะสำหรับคนท้องในปัจจุบัน ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีท่าโยคะคนท้อง ที่สามารถเล่นได้โดยไม่มีอันตรายต่อแม่และเด็กในท้อง แต่จะช่วยฝึกการหายใจ สมาธิ เชื่อมโยงระหว่างคุณแม่กับลูกน้อยเข้าถึงกันได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยปรับอารมณ์ที่แปรปรวนของคุณแม่ ให้มีความมั่นคง พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และอารมณ์ที่ไม่เสถียรอย่างชาญฉลาด และสตรองแม้จะกำลังตั้งครรภ์ 

แต่ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ฝึกโยคะมาก่อนหรือไม่เคยเล่นโยคะมาก่อนตั้งครรภ์ และมีความต้องการจะเล่นโยคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ก็จะต้องปรึกษาคุณหมอ เช็คอายุครรภ์ จะต้องอยู่ในความดูแลของครูผู้สอนโยคะสำหรับคนท้องโดยเฉพาะ (Prenatal yoga teacher) และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเสมอเพื่อความปลอดภัย

คุณหมอมักจะแนะนำคนที่กำลังตั้งครรภ์ให้งดออกกำลังกาย หรืออาจออกกำลังกายให้น้อยลง แต่การออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่สามารถทำได้ในระหว่างตั้งครรภ์ นั่นก็คือ “โยคะ” เพราะการเล่นท่าโยคะสำหรับคนท้อง มีประโยชน์ต่อทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์ 

ประโยชน์การฝึกโยคะสำหรับคนท้อง 

1.ช่วยปรับอารมณ์และจิตใจสตรีมีครรภ์ 

การฝึกโยคะจะช่วยให้มีสมาธิ ช่วยปรับอารมณ์ให้คงที่ ลดอาการหวั่นวิตกเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ 

2.บรรเทาอาการไม่สบายของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 

เพราะร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งสรีระ ฮอร์โมน และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการเจ็บตามกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เป็นตะคริว มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งอาการต่างๆมักจะเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน ดังนั้นการี่คนท้องเล่นโยคะ จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ทำให้คุณแม่ทั้งหลายรู้สึกสบายตัวขึ้น และจิตใจก็เบาโล่งสบายขึ้น ส่งผลต่อลูกในครรภ์อีกด้วย 

3.เสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อยในครรภ์ 

เมื่อคุณแม่ฝีกโยคะ ทำให้ร่างกายมีการไหลเวียนของเลือดได้ดี ระบบการลำเลียงอาหารส่งไปหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกในครรภ์ได้เหมาะสม

4.ทำการคลอดได้ง่าย 

เพราะการเล่นโยคะจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น ช่วยยืดเส้นเอ็นและข้อต่างๆ ให้คลายจากความแข็งตึง ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ร่างกายมีความเตรียมพร้อม และสามารถทำการคลอดได้ง่าย 

5.ร่างกายสามารถฟื้นฟูหลังการคลอดได้อย่างรวดเร็ว 

สำหรับคุณแม่ที่มีการเล่นโยคะระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายจะสามารถฟื้นฟู กลับมามีรูปร่างที่กระชับ ลดหน้าท้องหลังการคลอดได้เร็วขึ้น เพราะการทำโยคะ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี และช่วยปรับระบบการขับถ่าย ช่วยให้ระบบร่างกายกลับเข้าสู่สภาพฟิตตัวได้อย่างรวดเร็ว 

โยคะสำหรับคนท้องแต่ละไตรมาส

โยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จะแบ่งออกได้เป็น 3 ไตรมาสด้วยกัน เป็นการแบ่งเพื่อปรับเปลี่ยนท่าให้เหมาะสมตามอายุครรภ์ 

โยคะคนท้องไตรมาส 1 (0 – 13 สัปดาห์) 

ในไตรมาสแรก เริ่มเป็นช่วงการฝังตัวของทารก จึงเสี่ยงต่อการแท้งได้ง่ายที่สุด ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการเล่นโยคะ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และหากได้รับการพิจารณาตามความเหมาะสม ควรเล่นโยคะในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ หรือในคอร์สโยคะคนท้องเท่านั้น 

ช่วงที่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงระยะเวลา 13 สัปดาห์ การเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยาภายในร่างกายของคุณแม่ ทำให้มีอาการที่ตอบสนองต่ออารมณ์และการแสดงออก ที่อาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อาจมีความสุขมากๆ หรืออาจไม่สบายมากๆ โดยส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เมื่อยล้า และอารมณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม แม้ว่าอาจดูเหมือนไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ตาม 

เนื่องจากช่วงแรกของการตั้งครรภ์เป็นช่วงการฝังตัวของทารก จึงควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก ห้ามฝึกท่าที่เป็นอันตรายต่อครรภ์เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นท่าที่ต้องกระโดด หรือท่ากลับหัวต่างๆ 

ตัวอย่างท่าโยคะสำหรับคนท้องไตรมาสแรก 

  • ท่าไหว้พระอาทิตย์ (Sun Salutation) ท่านี้จะช่วยให้หน้าท้องแข็งแรง เสริมสร้างกำลังแขน เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อขาและแผ่นหลังได้เป็นอย่างดี 
  • ท่าอูฐ (Camel Pose) ท่านี้จะช่วยเปิดไหล่ เปิดอก แก้อาการไหล่ห่อ หลังห่อ เป็นท่าโยคะแก้อาการปวดหลังคนท้อง และยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้สาวๆ ที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวได้ดีทีเดียว 
  • ท่าสะพาน (Bridge Pose) ท่าสะพานช่วยยืดกล้ามเนื้อของร่างกายได้เกือบทุกสัดส่วน และยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะส่วนท้อง หลัง หัวไหล่ แขน และมือ แต่สำหรับคนท้องในไตรมาสแรก จะต้องทำอย่างระมัดระวังที่สุด 

โยคะคนท้องไตรมาส 2 ( 14 – 28 สัปดาห์)

เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จะรู้สึกเจริญอาหารมากขึ้น เนื่องจากอัตราการเผาผลาญอาหารเพิ่มขึ้น ผลจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ปริมาณเลือดในร่างกายเพิ่มขึ้น เพื่อหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์ การไหลเวียนของเลือดเร็วขึ้น และอัตราการเต้นของหัวใจก็เพิ่มขึ้น การที่ต้องใช้น้ำตาลในร่างกายเร็วขึ้น คุณแม่ทั้งหลายจึงควรทานอาหารว่างก่อน 1 ชั่วโมงที่จะเข้าเรียนโยคะคนท้อง ดื่มน้ำให้มากพอในแต่ละวัน และทานโปรตีนให้ถึง 60 กรัม/วัน เพื่อให้เพียงพอต่อร่างกายของคุณและลูกน้อยในครรภ์ และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่  ที่สำคัญ..ไม่ควรกดดันตนเองในทุกเรื่อง หรือแม้แต่ขณะที่กำลังฝึกโยคะ

ตัวอย่างท่าโยคะคนท้องไตรมาส 2

  • ท่านั่งผีเสื้อ เป็นท่าโยคะที่ช่วยบริหารกระดูกเชิงกรานโดยเฉพาะ ช่วยผ่อนคลายความตึงของต้นขา ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อหลังและอุ้งเชิงกราน เหมาะกับคุณแม่ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 
  • ท่านางเงือก (Mermaid Stretch) ท่านี้จะช่วยให้การเคลื่อนไหวของหัวไหล่ และกระดูกส่วนหลังดีขึ้น และยืดกล้ามเนื้อรอบๆสะโพกได้ดี 

โยคะคนท้องไตรมาส 3 ( 29 – 40 สัปดาห์ ) 

ช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นระยะที่ร่างกายคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทั้งน้ำหนักครรภ์ที่ใหญ่และยื่นออกมามากขึ้น ความแข็งแรงของทารกในครรภ์ แต่การหายใจของคุณแม่อาจเป็นเรื่องที่ยากขึ้น ความคล่องตัวก็อาจน้อยลงเล็กน้อย ทำให้เป็นอุปสรรคกับการฝึกความบาลานซ์ จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ช่วย เช่น บล็อคโยคะ โฟมโรลเลอร์ ลูกบอลโยคะ เชือก เพื่อช่วยในการฝึกท่าบาลานซ์ให้ง่ายขึ้น 

ตัวอย่างท่าโยคะคนท้องไตรมาส 3 

  • โยคะท่า Backbends เป็นท่าโยคะคนท้องแก้ปวดหลังได้ดีกับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ในไตรมาสที่ 3 แต่ถ้ารู้สึกไม่ดีเมื่อทำท่านี้ ให้หยุดทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการบีบตัวของหน้าท้อง 
  • ท่าหมาก้มตัว  (Downward facing dog) กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ขับสารพิษ เสริมภูมิคุ้มกัน และผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดีทีเดียวสำหรับคนท้อง 
  • โยคะท่านอนหงายบิดตัว (Supta Parivartanasana) เป็นอีกท่าโยคะคนท้องแก้ปวดหลังได้ดี 

ข้อห้ามท่าโยคะหญิงตั้งครรภ์ที่ควรรู้

ถึงแม้ว่าคนท้องจะสามารถเล่นโยคะได้ แต่จะต้องเป็นท่าโยคะที่ปลอดภัย อยู่ในการควบคุมดูแลของผู้ฝึกสอนโยคะคนท้องอย่างเคร่งครัด ห้ามทำท่าที่ต้องทรงตัวโดยใช้ศีรษะและหัวไหล่ หรือท่าที่ต้องทรงตัวในแนวตั้ง ที่ต้องใช้ศีรษะและมือสองข้างดันพื้นเพื่อรับน้ำหนักแทนขา เพราะอาจทำให้เกิดหน้ามืดเป็นลม หรือล้มลงจนเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ 

หลีกเลี่ยงท่าโยคะที่ต้องยืดกล้ามเนื้อหน้าท้องมาก ท่าที่ทำแล้วรู้สึกไม่สบายตัว หรือท่านอนราบที่ทำเกิน 1 นาที และทุกครั้งที่ต้องอยู่ในท่านอนราบ ควรพลิกตัวพักครั้งละ 30 วินาที เพราะท้องที่โตขึ้นอาจไปทับเส้นเลือดที่เข้าสู่หัวใจ ส่งผลให้เกิดการเวียนศีรษะ และคลื่นไส้ได้ 

ไม่ควรเล่นโยคะร้อน หรือเล่นโยคะในห้องที่มีอุณหภูมิสูง เพราะเสี่ยงต่อสุขภาพและอาจเป็นอันตรายได้ ไม่ควรเล่นที่ท่ายากเกินไป หรือท่าที่ทำแล้วไม่สบายตัว และควรหมั่นสังเกตสภาพร่างกายตนเองเสมอ ตลอดช่วงการฝึกโยคะ ไม่ว่าจะก่อนเล่นโยคะ ขณะเล่น และหลังจากเสร็จสิ้นจากการฝึกโยคะ หากมีอาการผิดปกติ หรือมีความเจ็บปวดในร่างกาย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที 

 

You May Also Like

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้างดน้ำตาล 14 วัน

โดยปกติร่างกายต้องการน้ำตาลเพียง 24 กรัม / วัน เท่านั้น หรือประมาณ 4-6 ช้อนชา (เทียบเท่าน้ำผลไม้ประมาณ 200 มิลลิลิตร) แต่ถ้าได้รับปริมาณที่มากไป จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว เกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง และประสิทธิภาพในการผลิตฮอร์โมนอินซูลินลดลง น้ำตาลแบ่งได้เป็น 2 ประเภท  น้ำตาลธรรมชาติ ที่ได้จากผัก ผลไม้ต่างๆ (ฟรุกโตส) และน้ำตาลในนม (แล็กโทส) น้ำตาลสังเคราะห์ หรือน้ำตาลที่ปรุงแต่ง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม…
View Post

ภูเขาไฟในไทยจะมีโอกาสปะทุซ้ำหรือไม่ 

จากการเกิดภัยธรรมชาติภูเขาไฟระเบิดของภูเขาไฟตองกา เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 ส่งผลให้เกิดควันภูเขาไฟและเถ้าถ่านที่เป็นมลพิษทางอากาศ พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าไปไกลได้ถึงประมาณ 20 กิโลเมตร และเกิดคลื่นสึนามิสูงถึง 15 เมตร ซัดเข้าชายฝั่งของเกาะแมงโก้ ทำให้หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะหายไปแทบทั้งหมู่บ้าน เหตุภูเขาไฟระเบิดผลกระทบที่เกิดขึ้นรุนแรงจนทั้งเกาะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปช่วงระยะหนึ่ง และอีกหลายประเทศที่ชายฝั่งติดมหาสมุทรแปซิฟิกได้รับความเสียหายรุนแรงจากภูเขาไฟปะทุลูกนี้ แม้ว่าประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบ เพราะจุดภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดอยู่ห่างจากชายฝั่งของไทยไปประมาณ 9,500 กิโลเมตร แต่ก็ต้องมีการจับตามองและเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด  ข่าวการเกิดภูเขาไฟหลายแห่งที่ยังคุกรุ่นอยู่นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเทือกเขารอบมหาสมุทรแปซิฟิก หรือ “วงแหวนแห่งไฟ” ที่หลายๆคนรู้จักกันดี ซึ่งมากกว่าร้อยละ 75% ของภูเขาไฟทั้งหมดบนโลก…
View Post

รวมอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ สไตล์ล้านนา ลำแต้ๆ

เมนูอาหารภาคเหนือ ที่ใครๆหลายคนชื่นชอบ บางคนอาจคุ้นเคยชื่อเพียงไม่กี่อย่าง แต่ที่จริงแล้ว ยังมีอาหารภาคเหนืออีกหลายเมนูที่น่าลิ้มลอง และอร่อยไม่แพ้อาหารภาคอื่นๆ บทความนี้ได้รวบรวมรายการอาหารท้องถิ่นภาคเหนือ ทั้งที่อาจเคยได้ยิน และไม่เคยได้ยินมาก่อน ให้ทุกคนได้รู้จักและลองไปหาชิมกัน จะได้รู้ว่าอาหารล้านนานั้น ลำขนาด!!  แอ๊บหมู อาหารเหนือท้องถิ่นแต้ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยิน แอ๊บหมู คืออาหารที่นำเนื้อหมูสดผสมกับไข่ไก่ ซึ่งจะต่างจากแอ๊บอาหารเหนือชนิดอื่นๆ คลุกเคล้ากับเครื่องปรุง แล้วห่อด้วยใบตอง จากนั้นนำไปทำให้สุกด้วยการย่างไฟ โดยการใช้ไฟอ่อนๆ จนข้างในสุก และมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน จอผักกาด แกงผักกาดเหนือ หรือ จอผักกาด อาหารพื้นบ้านล้านนา ใช้ผักกาดกวางตุ้งที่กำลังออกดอก…
View Post

ความหมายของแผงสวิตช์คืออะไร

แผงสวิตช์บอร์ด ที่เรามักจะเห็นได้ตามอาคาร ที่พักอาศัยระบบนิติบุคคล ตึกอาคารสูงๆ ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นกิจการ หรือรูปแบบอาคารใด ก็ต้องมีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วรู้ไหมว่า “แผงสวิตช์” หรือ Switchboard panel ส่วนประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้านี้ ทำหน้าที่อะไร และภายในตู้หน้าตาเรียบ ๆ นี้ มีส่วนประกอบอะไรข้างในบ้างนะ
View Post

รู้จักไซโคพาธ โรคขาดความสำนึกผิด

ไซโคพาธ (Psychopaths) โรคขาดความสำนึกผิด เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง มุ่งเน้นแต่เป้าหมายของตนเอง และทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น โดยไม่สนแม้จะต้องทำร้ายใคร หรือจะมีผลกระทบกับใครบ้าง Psychopaths หรือ ไซโคพาธ แปลว่า คนโรคจิต  และถ้าจะให้ความหมายคำว่า โรคจิต แปลว่า โรคทางจิตใจที่มีความผิดปกติของความรู้สึก ความคิด อารมณ์ หรือโรคจิตพฤติกรรมรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมสติได้ (ความหมายจาก พจนานุกรมไทยราชบัณฑิตยสถาน ) เช่น ประสาทหลอน วิกลจริต หลงผิด (โรคจิต ภาษาอังกฤษ psychosis…
View Post

ศีล 8 หรือ อุโบสถศีล

ศีล แปลว่า “ปกติ” การรักษาศีลจึงเป็นการรักษากาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ ดังนันศีล 8 จึงเป็นการดำรงตนให้เป็นปกติด้วยการงดเว้นจากการทำบาปและข้อที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรมขั้นสูงไปจนถึงการเข้าสู่นิพพาน    ศีล 8 ภาษาอังกฤษคือ 8 precepts ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัจจุบันไม่เพียงแต่คนไทยหรือชาวพุทธทางเอเชียเท่านั้นที่ยึดถือปฏิบัติในการรักษาศีล แต่เริ่มมีการสนใจและศึกษาพร้อมปฏิบัติ รวมไปถึงการสวดมนต์ภาวนาเข้าทางสายพุทธกันมากขึ้นทั่วโลก ทั้งฝั่งทางยุโรป อเมริกา แคนาดา หรือแม้แต่อัฟริกา ดังนั้นบทอาราธนาศีลในบทความนี้จะมีคำภาษาอังกฤษประกอบให้เพื่ออำนวยความสะดวกกับชาวต่างชาติที่สนใจได้ฝึกหรือคนไทยที่มีเพื่อนต่างชาติและสนใจ ก็สามารถนำไปบอกพวกเขาได้เช่นกัน     ศีลอุโบสถคือ ศีล 8…
View Post