คุณแปรงฟันวันละสองครั้ง หลีกเลี่ยงกาแฟ และทำตามทุกข้อที่ว่ากันว่าเพื่อรอยยิ้มที่สวยงาม แต่ทำไมฟันยังดูเหลืองอยู่? คำถามนี้สร้างความสับสนและพบได้บ่อย ความจริงคือ สีฟันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดูแลความสะอาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พันธุกรรม อายุ อาหารที่กิน ภาวะของเคลือบฟัน และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ล้วนมีผลต่อสีของฟันทั้งสิ้น การเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีการดูแลและแก้ไขที่เหมาะสม เพื่อฟันขาวที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาว ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมฟันถึงยังเหลืองได้แม้คุณจะดูแลดีแค่ไหน พร้อมแนะนำวิธีฟื้นฟูรอยยิ้มให้ดูขาวสดใสอย่างปลอดภัยและเห็นผลจริง
สาเหตุที่ฟันเหลือง แม้แปรงฟันทุกวัน และวิธีทำให้ฟันขาวขึ้น
1. สีฟันตามธรรมชาติและพันธุกรรม
เหมือนกับสีผิวหรือสีผม สีของฟันก็มีส่วนที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรมเช่นกัน บางคนมีฟันที่ดูเหลือง ขาวหม่น หรือออกเทาตามธรรมชาติ เคลือบฟัน (enamel) ซึ่งเป็นชั้นนอกของฟัน
อาจบางหรือโปร่งแสงมากกว่าคนอื่น ทำให้เห็นเนื้อฟันด้านใน (dentin) ที่มีสีเหลืองได้ง่าย หากพ่อแม่ของคุณมีฟันเหลืองแม้ดูแลดี คุณก็อาจมีลักษณะนั้นเช่นกัน และการฟอกฟันอาจได้ผลไม่เท่ากับคนอื่น
2. การสึกกร่อนของเคลือบฟัน
เคลือบฟันเป็นชั้นขาวที่ปกป้องฟัน เมื่อเคลือบฟันสึกหรือบางลง จะทำให้เห็นเนื้อฟันด้านในที่มีสีเหลืองมากขึ้น การกินอาหารเปรี้ยวหรือแปรงฟันแรงเกินไป เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เคลือบฟันบางลงได้อย่างต่อเนื่อง
3. คราบพลัคและหินปูน
แม้จะแปรงฟันทุกวัน ก็อาจมีบางส่วนที่ทำความสะอาดไม่ทั่วถึง คราบพลัค (plaque) จะสะสมและแข็งตัวกลายเป็นหินปูน ซึ่งต้องให้ทันตแพทย์ขูดออกการปล่อยให้คราบพลัคสะสมจะทำให้ฟันดูเหลืองและเสี่ยงต่อโรคเหงือกได้ด้วย
4. วิธีแปรงฟันที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ใช้ไหมขัดฟัน
แค่แปรงฟันวันละ 2 ครั้งไม่พอหากเทคนิคไม่ดี เช่น แปรงเร็วไป แปรงไม่ทั่ว หรือไม่ใช้ไหมขัดฟันเลยเศษอาหารและแบคทีเรียที่ตกค้างสามารถกลายเป็นคราบที่ทำให้ฟันหมองได้ในระยะยาว
5. อาหารและเครื่องดื่มบางประเภท
อาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดมีสีจัดหรือกรดสูงที่ยึดติดกับผิวฟัน ทำให้เกิดคราบสะสมหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรดื่มน้ำตามหรือบ้วนปากหลังรับประทานเพื่อลดผลกระทบ
นอกจากนี้ การใช้หลอดดูดช่วยลดการสัมผัสโดยตรงกับฟัน ทำให้คราบเกิดขึ้นน้อยลงและช่วยรักษาความขาวของฟันได้นานขึ้นด้วย
6. อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเราอายุมากขึ้น เคลือบฟันจะบางลงตามธรรมชาติ ทำให้ฟันดูเหลืองขึ้น
นอกจากนี้ การดูดซึมสีจากอาหารก็ง่ายขึ้น ทำให้ฟันเปลี่ยนสีเร็วกว่าในวัยหนุ่มสาว
7. ยาบางชนิด
ยาบางประเภทมีผลข้างเคียงต่อสีฟัน เช่น ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีน หรือยาเคมีบำบัดหากต้องใช้ยาเหล่านี้เป็นระยะยาว ควรสอบถามทันตแพทย์ถึงวิธีดูแลเพิ่มเติม
8. ผลิตภัณฑ์ทางเลือกแทนการสูบบุหรี่
บุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ หรือซิการ์ อาจไม่มีควันมากเหมือนบุหรี่ แต่ยังทำให้เกิดคราบฟันได้นิโคตินและน้ำยาที่ใช้ยังมีสารที่ทำให้ฟันเหลืองแม้ดูเหมือน “ปลอดภัย”
9. คุณภาพน้ำและปริมาณฟลูออไรด์
หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีฟลูออไรด์ในน้ำสูง อาจเกิดรอยด่างหรือฟันตกกระได้โดยเฉพาะหากได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในช่วงเด็ก ซึ่งมีผลต่อสีฟันถาวร
10. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและปัญหาสุขภาพ
ช่วงวัยรุ่น ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ซึ่งมีผลต่อสุขภาพช่องปากน้ำลายลดลง หรือภาวะป่วยบางอย่างอาจเร่งการเกิดคราบหรือทำให้ฟันเปราะบางได้
วิธีทำให้ฟันขาวขึ้น
1. ขูดหินปูนกับทันตแพทย์
การทำความสะอาดโดยทันตแพทย์ช่วยขจัดคราบสะสมที่ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองแนะนำให้ทำทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันฟันเหลืองสะสม
2. ใช้ยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาว
เลือกยาสีฟันที่อ่อนโยนและมีคุณสมบัติลดคราบ จะช่วยให้ฟันดูขาวขึ้นโดยไม่ทำลายเคลือบฟันหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารกัดฟันแรง เพราะอาจทำให้ฟันไวต่อความรู้สึก
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ฟันเหลือง
ลดการ ดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง หรือใช้หลอดช่วยลดการสัมผัสกับผิวฟันการบ้วนปากทันทีหลังรับประทานก็ช่วยลดคราบได้มาก
4. ชุดฟอกฟันขาวที่บ้าน
แผ่นฟอกหรือเจลที่หาซื้อได้ทั่วไปช่วยลดคราบสะสมได้ แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังหากรู้สึกเสียวฟันหรือระคายเคือง ควรหยุดใช้และปรึกษาทันตแพทย์
5. ฟอกฟันขาวโดยทันตแพทย์
เป็นวิธีที่ปลอดภัยและเห็นผลเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนสีฟันอย่างชัดเจนทันตแพทย์สามารถปรับความเข้มข้นและดูแลความปลอดภัยได้ดีกว่าการทำด้วยตัวเอง
6. ปรับปรุงวิธีดูแลช่องปาก
แปรงฟันให้ถูกวิธี ใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปากอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ฟันขาวและแข็งแรงการเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาฟันให้ดีในระยะยาว
สรุป
ฟันเหลืองไม่ใช่เรื่องแปลก แม้จะแปรงฟันทุกวัน เพราะมีหลายปัจจัยที่ไม่ควบคุมได้ เช่น พันธุกรรม อาหาร หรืออายุ การรู้สาเหตุจะช่วยให้คุณเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ฟันขาวคือส่วนหนึ่งของรอยยิ้มที่สวยงาม แต่ฟันที่แข็งแรง สุขภาพดี และมีวินัยในการดูแล คือสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าด้วยการดูแลอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ คุณจะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาฟันเหลือง และยังส่งเสริมสุขภาพช่องปากโดยรวมให้แข็งแรง