เป็นเรื่องธรรมดาที่ชีวิตคนเราจะมีช่วงที่ “แห้งแล้ง” ทางเพศ บางคนอาจห่างหายไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่บางคนอาจยาวนานเป็นเดือนหรือเป็นปี ปัจจัยอย่างความเครียดจากงาน ปัญหาชีวิต หรือแม้แต่การระบาดของโรคก็มีส่วนทำให้ความใกล้ชิดในความสัมพันธ์ลดลง
แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ การ “งดเรื่องอย่างว่า” ไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องอารมณ์หรือความสัมพันธ์เท่านั้น — มันยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจในหลายด้าน ตั้งแต่หัวใจ ความดัน ไปจนถึงระบบภูมิคุ้มกันเลยทีเดียว
ด้านล่างนี้คือ 7 การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ ที่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่าอาจเกิดขึ้นได้เมื่อคุณหยุดมีเพศสัมพันธ์ พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้ชายที่เริ่มมีอาการ “ความต้องการลดลง” หรือ “เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”
1. ระดับความเครียดเพิ่มขึ้น อารมณ์แปรปรวนง่าย
การมีเซ็กซ์ไม่ได้ให้แค่ความสุข แต่ยังช่วยลดความเครียดได้อย่างแท้จริง
ดร.เดบราห์ ดับเบิลยู. โซห์ (Debra W. Soh) นักประสาทวิทยาและนักวิจัยด้านเพศ ระบุว่า ในระหว่างการถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะหลั่ง “เอนดอร์ฟิน” ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความวิตก และเสริมสร้างอารมณ์ในทางบวก
ดังนั้น เมื่อคุณหยุดมีเพศสัมพันธ์ ร่างกายจะขาดการหลั่งสารเหล่านี้ ทำให้รู้สึกหงุดหงิด กระสับกระส่าย และผ่อนคลายได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่เคยใช้การมีเพศสัมพันธ์เป็นวิธีคลายเครียด
ถึงแม้ออกกำลังกายหรือฝึกสมาธิจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขที่เกิดจากการมีเซ็กซ์ได้อย่างสมบูรณ์
2. การนอนหลับแย่ลง หรือนอนไม่ลึกเหมือนเดิม
หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนสำคัญ 3 ชนิด ได้แก่
-
ออกซิโทซิน (Oxytocin): ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
-
โพรแลกติน (Prolactin): สร้างความรู้สึกอิ่มใจและพอใจ
-
โดปามีน (Dopamine): กระตุ้นความสุขและแรงจูงใจ
ดร.ฟิล สตีก (Phil Stieg) นักประสาทวิทยาจากศูนย์การแพทย์ไวล์ คอร์เนลล์ (Weill Cornell Medical Center) สหรัฐฯ กล่าวว่า การขาดฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้การนอนหลับยากขึ้นและคุณภาพการนอนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อหลับไม่สนิท คุณจะยิ่งรู้สึกเครียด เหนื่อยล้า และมีแนวโน้มจะควบคุมอารมณ์ได้ยากกว่าเดิม
3. ความดันโลหิตอาจเพิ่มขึ้น
เพศสัมพันธ์ถือเป็น “การออกกำลังกายเบา ๆ” ที่ดีต่อหัวใจ การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Biological Psychology ปี 2006 พบว่า คนที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำจะมีความดันโลหิตต่ำกว่า
เมื่อหยุดมีเพศสัมพันธ์ ร่างกายอาจสูญเสียความสามารถในการจัดการกับความเครียดทางสรีรวิทยา ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น และเสี่ยงต่อโรคหัวใจมากขึ้น
4. เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
ผลการศึกษาจาก American Journal of Cardiology ปี 2010 ระบุว่า ผู้ชายที่มีเซ็กซ์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจลดลงเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับคนที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย
เหตุผลไม่ใช่แค่เรื่องการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ “ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น” และการลดฮอร์โมนความเครียด ซึ่งส่งผลดีต่อหัวใจโดยตรง
5. เพิ่มความเสี่ยง “หย่อนสมรรถภาพทางเพศ” ในผู้ชาย
คำพูดที่ว่า “ถ้าไม่ใช้ก็จะเสียมันไป” นั้นเป็นเรื่องจริงในทางสรีรวิทยา
งานวิจัยจาก American Journal of Medicine พบว่า ผู้ชายอายุ 50–70 ปีที่มีเพศสัมพันธ์น้อย มีแนวโน้มเกิดภาวะ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) มากกว่าคนที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ
การกระตุ้นทางเพศช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะเพศและรักษาความยืดหยุ่นของเส้นเลือด เมื่อขาดการใช้งานเป็นเวลานาน เนื้อเยื่อบริเวณนั้นจะเสื่อมความยืดหยุ่น ทำให้การแข็งตัวอ่อนแรงหรือใช้เวลานานขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีคู่นอน การหลั่งน้ำอสุจิอย่างสม่ำเสมอ (เช่น จากการช่วยตัวเอง) ก็ยังมีส่วนช่วยคงสภาพการทำงานของระบบทางเพศได้
6. เพิ่มความเสี่ยง “มะเร็งต่อมลูกหมาก”
มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ผู้ชายที่มีการหลั่งน้ำอสุจิเป็นประจำ 4–7 ครั้งต่อสัปดาห์ มีโอกาสเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่า เพราะการหลั่งน้ำอสุจิช่วยขับของเสียและสารพิษออกจากต่อมลูกหมาก อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนและการไหลเวียนของเลือดอีกด้วย
ในทางกลับกัน การละเว้นทางเพศเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของสารพิษในต่อมลูกหมาก และเพิ่มความเสี่ยงของโรคในระยะยาว
7. ภูมิคุ้มกันอ่อนแอขึ้น เจ็บป่วยง่าย
การมีเพศสัมพันธ์ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกับการออกกำลังกาย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิลค์ส (Wilkes University) สหรัฐฯ พบว่า คนที่มีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง มีระดับ “อิมมูโนโกลบูลินเอ (IgA)” สูงกว่า ซึ่งเป็นแอนติบอดีที่ช่วยป้องกันไข้หวัดและการติดเชื้อ
การงดเพศสัมพันธ์นาน ๆ อาจทำให้ระดับ IgA ลดลง ร่างกายจึงอ่อนแอและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
เมื่อการงดเพศสัมพันธ์นำไปสู่ “ความต้องการลดลง” หรือ “เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”
แม้การงดเซ็กซ์ชั่วคราวจะไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่หากยาวนานเกินไป อาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชายและความต้องการทางเพศในระยะยาว
ภาวะความต้องการทางเพศลดลง (Low Libido) มักเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน เช่น ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ ภาวะซึมเศร้า หรือระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ ขณะที่ ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) มักเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนเลือดผิดปกติ เส้นประสาทไวต่อการกระตุ้นลดลง หรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน
หากปล่อยไว้นาน ความต้องการทางเพศอาจลดลงเรื่อย ๆ เพราะสมองและร่างกายหยุดตอบสนองต่อสิ่งเร้า ทำให้เกิดวงจร “ไม่อยาก–ไม่ทำ–ยิ่งไม่อยาก” ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาที่ถูกวิธี
Menscape Clinic ทางออกเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพและความมั่นใจของผู้ชาย
หากคุณเริ่มรู้สึกว่าแรงขับทางเพศลดลง พลังงานถดถอย หรือมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศ Menscape Clinic – คลินิกสุขภาพชายชั้นนำของประเทศไทย พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างมืออาชีพ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัย
1. ตรวจฮอร์โมนและบำบัดฟื้นฟูเทสโทสเตอโรน (TRT)
การลดลงของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นสาเหตุหลักของภาวะความต้องการทางเพศต่ำและ ED
Menscape Clinic มีบริการตรวจวัดระดับฮอร์โมนอย่างละเอียด และให้การรักษาด้วย Testosterone Replacement Therapy (TRT) เพื่อฟื้นฟูสมดุลฮอร์โมน เพิ่มพลังงาน และปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น
2. Shock Wave Therapy รักษา ED โดยไม่ต้องผ่าตัด
การใช้คลื่นเสียงความเข้มต่ำ (Low-Intensity Shock Wave) ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศ ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศอย่างเป็นธรรมชาติ เห็นผลจริง ปลอดภัย และไม่ต้องใช้ยา
3. Penile Filler และ PRP Therapy เพื่อเสริมความมั่นใจ
สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์และความรู้สึกขณะมีเพศสัมพันธ์
Menscape Clinic มีบริการ ฉีดฟิลเลอร์น้องชาย (Penile Filler) และ บำบัดด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP Therapy) เพื่อฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเพิ่มความไวต่อการสัมผัส
4. แนะแนวการดูแลสุขภาพองค์รวม
นอกจากการรักษาเฉพาะทางแล้ว ทีมแพทย์ของ Menscape ยังให้คำแนะนำด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการนอน เพื่อฟื้นฟูสุขภาพชายในระยะยาว
Menscape Clinic ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความสบายใจของผู้เข้ารับบริการทุกคน เพื่อให้ทุกท่านกลับมามีชีวิตที่มั่นใจและมีพลังอีกครั้ง
สรุปส่งท้าย
เพศสัมพันธ์ไม่ใช่แค่เรื่องของความสุข แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของ “สุขภาพโดยรวม” ทั้งทางกายและจิตใจ การงดเพศสัมพันธ์เป็นเวลานานอาจทำให้ระดับความเครียดสูงขึ้น คุณภาพการนอนลดลง ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ มะเร็งต่อมลูกหมาก และภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ข่าวดีคือ ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากเริ่มดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี และเข้ารับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชายโดยเฉพาะอย่าง คลินิกเมนสเคป – Menscape Clinic ที่พร้อมให้คำปรึกษาและการรักษาอย่างครบวงจร
สุขภาพทางเพศที่ดีคือพื้นฐานของชีวิตที่มีพลัง และด้วยการดูแลที่ถูกต้อง คุณสามารถกลับมามีความสุขในความสัมพันธ์และความมั่นใจได้อีกครั้งอย่างเต็มที่