5 อย่างที่เราได้จากหนังสือ The Subtle Art of Not Giving a F*ck

Total
0
Shares

เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านหนังสือ แต่มีหนังสือประเภทหนึ่งที่เราไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่ คือหนังสือประเภท self-help หรือแนวสอนชีวิต พัฒนาชีวิต อะไรแบบนี้ เพราะเรารู้สึกว่าเราเชื่อมต่อกับคนเขียนไม่ได้ ไม่ได้รู้สึกอินไปกับมัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้เจอกับหนังสือเรื่อง The Subtle Art of Not Giving a F*ck ของ Mark Manson และบอกเลยว่าซื้อเพราะชื่อหนังสือจริงๆ

เมื่อได้อ่านแล้วเราก็รู้สึกชอบสไตล์การเล่าเรื่องของนักเขียนมากๆ เขาสามารถเขียนตัวหนังสือในหมวดพัฒนาตนเองได้แบบที่เราไม่รู้สึกว่าโดนสั่งสอนอยู่เลยซักนิด เหมือนมาเล่าเรื่องราวของชีวิตให้ฟัง สิ่งที่เขาเคยประสบและได้เรียนรู้ อีกทั้งเขายังพูดถึงสภาพจิตใจของผู้คนโดยที่เราไม่ได้รู้สึกว่าเขาจะย้ำว่าเป็นความผิด และเข้าถึงได้ดีมากๆ

และนี่คือ 5 อย่างที่เราได้เรียนรู้จากหนังสือ The Subtle Art of Not Giving a F*ck

1. ชีวิตมันก็เฮงซวยแบบนี้แหละ ไม่เป็นไรนะ

หัวข้อนี้แหละที่ตรงที่สุดแล้ว เพราะทุกคนก็รู้อยู่แล้วแหละว่าชีวิตเราไม่ได้ราบรื่นกันทุกคน มันดีบ้างร้ายบ้าง บางทีก็ไม่สดใสเท่าไหร่ บางทีเราก็รู้สึกเศร้า ร้องไห้แทบตาย

แต่เรื่องดีก็คือมันทำให้เราได้ตระหนักว่า ไม่ใช่แผนทุกแผนจะดำเนินไปอย่างตามต้องการ มันจะผิดพลาดแน่นอน ผู้คนจะทำให้เราผิดหวัง เรื่องแย่ๆ จะเกิดขึ้น แต่พอมีเงามันก็แสดงว่ามันมีแสง! ถ้ามันมีเรื่องเลวร้าย มันก็ต้องมีเรื่องดีๆ เช่นกัน มันคือเรื่องปกติจริงๆ ไม่ใช่แค่คุณหรอกนะ

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ความเจ็บปวดหลีกเลี่ยงไม่ได้

หนังสือสอนใจหลายเล่มมักกล่าวว่า “ถ้าหากคุณคิดบวกเข้าไว้ เรื่องดีๆ จะเกิดขึ้นเอง” แต่เอาจริงเหมือนคุณ มาร์ก แมนสัน จะไม่ได้คิดแบบนั้นซะทีเดียว เพราะเขาโต้ว่าวิธีการคิดแบบนี้มันอาจทำให้เราพลาดในการคิดแก้ไขปัญหา เรากำลังหนีปัญหาอยู่ และสุดท้ายความเจ็บปวดจะไม่หายไป

ไม่ว่าเราจะคิดหนทางที่คิดว่าครอบคลุมทุกปัญหา หลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิด แต่สุดท้ายมันก็จะมีปัญหาเกิดอยู่ดี ดัังนั้น ไม่ใช่ว่าไม่ต้องคิดทางแก้ไว้ก่อน แต่เมื่อปัญหาเกิด ความเจ็บปวดเกิดขึ้น สิ่งที่เราควรทำคือมองหาทางแก้ใหม่ และให้ความเจ็บปวดนั้นเป็นประสบการณ์ให้กับเราดีกว่าจะมองข้ามมันไป

“ความต้องการที่จะได้รับผลลัพธ์ด้านบวก จะทำให้เราได้รับประสบการณ์ด้านลบ

ในทางขัดแย้งกัน หากเราเลือกที่จะยอมรับประสบการณ์ด้านลบ มันจะกลายเป็นผลลัพธ์ด้านบวกในที่สุด 

(The desire for a more positive experience is for itself a negative experience. And, paradoxically, the acceptance of one’s negative experience is itself a positive experience.)” – Mark Manson

2. เมื่อเรากรองสิ่งที่สำคัญจริงๆ ต่อเรา เราจะมีเรื่องให้กังวลน้อยลง

เมื่อเราอ่านเจอประเด็นนี้ ความคิดแรกที่ผุดมาในหัวเลยก็คือ “ทำไมเราไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนนะ” เพราะจริงๆ ตามตัวอักษร เพราะเหมือนเราให้ความสำคัญกับทุกสิ่งอย่าง ทำให้เรามีความกังวลกับทุกสิ่งอย่าง 

ชีวิตของเราแต่ละคน มีอะไรที่ต้องห่วง มีอะไรที่เราให้ความสำคัญแตกต่างกันไป มันส่งผลทำให้เรามองโลกแตกต่างกันไป ความสำเร็จของคุณเป็นอย่างไร ความล้มเหลวล่ะ ข้อดีข้อด้อยต่างๆ บางคนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องราวมากมาย เพราะคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับต่อผู้อื่นและต่อตัวเอง แต่นั่นทำให้ในบางครั้ง สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากมายนั่นแหละอาจจะทำให้เราตัดสินใจพลาด หรือไม่ทันการณ์ กว่าจะรู้ว่าอะไรที่สำคัญจริงๆ มันก็สายไปเสียแล้ว

การเผชิญหน้ากับความท้าทายอาจกลายเป็นความสุขอย่างหนึ่ง

สิ่งยากๆ หนักหนาสาหัสมันจะรอคอยเราอยู่ทุกย่างก้าว และเมื่อเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ทำได้แค่ยอมรับและเผชิญโชคของเราไป บางทีคุณอาจได้เรียนรู้จากสิ่งยากๆ เหล่านั้นก็ได้ บางทีกว่าคุณจะรู้ตัว เรื่องราวๆ ดีๆ ก็อาจเกิดขึ้นแล้วก็เป็นได้นะ

3. คุณไม่ได้เป็นข้อยกเว้น

บางทีสำหรับหลายๆ คนน่าจะกำลังคิดว่าตัวเองมีอะไรบางอย่างที่พิเศษ บางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ อยู่ ไม่ว่าคุณจะกำลังคิดว่า เพราะสิ่งนั้นเลยทำให้ตัวเองเหนือกว่า หรือเพราะสิ่งนั้นทำให้ตัวเองด้อยกว่าอยู่ก็ตาม ความจริงก็คือ คุณไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ เลย มีคนอีกจำนวนมากที่กำลังมีความคิดเช่นเดียวกับคุณ 

ที่คุณกำลังรู้สึกว่า “แตกต่าง” บางทีอาจเกิดขึ้นได้หลักๆ จาก 2 เหตุผล นั่นก็คือ ถ้าไม่ใช่ว่าคุณมีความมั่นใจสูง คุณก็มีความมั่นใจต่ำมากๆ เพราะไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งไหนมากกว่ากัน ปลายทางของมันคือทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น หากคุณเป็นคนผอม และรู้สึกว่าจีบใครก็ไม่ติด คุณก็จะเริ่มคิดว่าเพราะคุณผอมยังไงล่ะ ไม่มีกล้ามโตแบบคนที่เขาชอบ ในขณะที่อาจจะลืมมองปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย

คุณมาร์กก็เลยโต้ว่า จริงๆ หากเราสามารถมองสิ่งแย่ๆ ต่างๆ ในชีวิตได้ เพียงแค่เราเริ่มที่จะมองเห็นสิ่งเหล่านั้น แค่นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้คุณรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองเพิ่มขึ้นจากเดิมแล้ว

จริงอยู่ว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรานั้นเป็นเรื่องพิเศษ มันทำให้เราพิเศษกว่าคนอื่นๆ แต่มันก็อาจจะแปลกๆ ถ้าทุกคนพิเศษแล้วสรุปแล้วคำว่าพิเศษคืออะไร หรือเราพิเศษกว่าทุกคนจริงๆ คนอื่นต้องด้อยกว่าหรือเปล่า หรือจริงๆ แล้วทุกคนมีสิ่งพิเศษในตัวเอง และถ้าทุกคนพิเศษ นั่นก็แปลว่าเราไม่ได้ด้อยกว่าใครเลยจริงไหมล่ะ?

4. ทุกๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณเป็นความรับผิดชอบของคุณ

ไม่ใช่ว่าเราต้องรับผิดชอบในทุกๆ เรื่องหรอกนะ แค่เฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณเท่านั้น และการรับผิดชอบมันก็แตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ด้วย 

หากเราลองนึกดูดีๆ เกือบทุกๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา มีการตัดสินใจของเราร่วมด้วยเสมอ ยิ่งเราตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้เร็วเท่าไหร่ เราก็จะยอมรับและตัดสินใจทำอะไรซักอย่างได้เร็วเท่านั้น และทุกๆ การตัดสินใจของเราก็สามารถผิดพลาดได้ แต่นั่นก็คือทางเลือกของเรา หากเราไม่พอใจกับผลลัพธ์ของมันก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างไรก็ตามเราไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่เราทำมันจะดีหรือไม่ดี มีแต่ทำกับไม่ทำเท่านั้น หากไม่ทำก็จะเป็น 0 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

และสิ่งที่คุณให้ความสำคัญในข้อ 2 ก็จะพัฒนาทักษะการตัดสินใจของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เรามีสิทธิ์เต็มร้อยสำหรับทางเดินของเรา และเซ็นสัญญารับผิดชอบเต็มร้อยกับการตัดสินใจนั้นไปพร้อมๆ กัน

5. คุณกำลังจางหายไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยอมรับเสียดีกว่า

เราทุกคนมีแนวโน้มว่าจะกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องการจากไป ไม่ว่าจะทางร่างกาย หรือในจิตใจของผู้คน บางคนพยายามไม่คิดถึงมัน ในขณะที่บางคนก็กำลังคิดถึงมันมากเกินไป 

ไม่ว่าคุณกำลังนึกถึงคอนเซปต์การจางหายไปในรูปแบบใดก็ตาม ในท้ายที่สุดมันก็จะเกิดขึ้น บางทีคุณอาจไม่ได้นึกถึงมันด้วยซ้ำตอนสิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไรทั้ง 2 แนวคิด แต่สำหรับบางคน การคิดถึงการจางหาย ทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่กับปัจจุบันเท่าที่ควรจะเป็น

เพราะคุณกลัวว่าผู้คนจะลืมคุณ คุณจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ถูกจดจำได้ แต่สุดท้ายแล้วเรากำลังทำเพื่อตัวเองจริงๆ หรือกำลังทำเพื่อใครอยู่ เรากลัวความตายมากจนเกิดลืมไปว่าตัวเองกำลังมีชีวิตอยู่ ลืมว่าตอนนี้เราสามารถควบคุมชีวิตของเราได้ และหากคุณไม่ได้สนใจชีวิตตัวเอง คุณจะสนใจเรื่องอะไรมากกว่านี้ได้อีก?

มาร์ก แมนสัน จะไม่อ่อนโยนต่อคุณมากนักในหนังสือเล่มนี้ บางทีก็อาจดูฮาร์ดคอร์ไปซักหน่อยด้วย แต่เราก็อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองอ่าน คุณอาจจะได้อะไรมากกว่านี้ หรือพออ่านเต็มๆ แล้วความคิดต่อประเด็นเหล่านี้ก็อาจจะเปลี่ยนไป ยิ่งดีไปกว่านั้นหากคุณอ่านแล้วสามารถหาข้อโต้แย้งในหนังสือ ไม่ใช่แค่เล่มนี้ แต่กับทุกๆ สถานการณ์ เพราะสุดท้าย เราไม่ได้อ่านเพื่อหาสิ่งถูกหรือสิ่งผิด เราอ่านเพื่อเพิ่มการรับรู้ให้กับตัวเองต่างหากที่สำคัญ

You May Also Like

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้างดน้ำตาล 14 วัน

โดยปกติร่างกายต้องการน้ำตาลเพียง 24 กรัม / วัน เท่านั้น หรือประมาณ 4-6 ช้อนชา (เทียบเท่าน้ำผลไม้ประมาณ 200 มิลลิลิตร) แต่ถ้าได้รับปริมาณที่มากไป จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว เกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง และประสิทธิภาพในการผลิตฮอร์โมนอินซูลินลดลง น้ำตาลแบ่งได้เป็น 2 ประเภท  น้ำตาลธรรมชาติ ที่ได้จากผัก ผลไม้ต่างๆ (ฟรุกโตส) และน้ำตาลในนม (แล็กโทส) น้ำตาลสังเคราะห์ หรือน้ำตาลที่ปรุงแต่ง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม…
View Post

ภูเขาไฟในไทยจะมีโอกาสปะทุซ้ำหรือไม่ 

จากการเกิดภัยธรรมชาติภูเขาไฟระเบิดของภูเขาไฟตองกา เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 ส่งผลให้เกิดควันภูเขาไฟและเถ้าถ่านที่เป็นมลพิษทางอากาศ พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าไปไกลได้ถึงประมาณ 20 กิโลเมตร และเกิดคลื่นสึนามิสูงถึง 15 เมตร ซัดเข้าชายฝั่งของเกาะแมงโก้ ทำให้หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะหายไปแทบทั้งหมู่บ้าน เหตุภูเขาไฟระเบิดผลกระทบที่เกิดขึ้นรุนแรงจนทั้งเกาะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปช่วงระยะหนึ่ง และอีกหลายประเทศที่ชายฝั่งติดมหาสมุทรแปซิฟิกได้รับความเสียหายรุนแรงจากภูเขาไฟปะทุลูกนี้ แม้ว่าประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบ เพราะจุดภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดอยู่ห่างจากชายฝั่งของไทยไปประมาณ 9,500 กิโลเมตร แต่ก็ต้องมีการจับตามองและเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด  ข่าวการเกิดภูเขาไฟหลายแห่งที่ยังคุกรุ่นอยู่นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเทือกเขารอบมหาสมุทรแปซิฟิก หรือ “วงแหวนแห่งไฟ” ที่หลายๆคนรู้จักกันดี ซึ่งมากกว่าร้อยละ 75% ของภูเขาไฟทั้งหมดบนโลก…
View Post

รวมอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ สไตล์ล้านนา ลำแต้ๆ

เมนูอาหารภาคเหนือ ที่ใครๆหลายคนชื่นชอบ บางคนอาจคุ้นเคยชื่อเพียงไม่กี่อย่าง แต่ที่จริงแล้ว ยังมีอาหารภาคเหนืออีกหลายเมนูที่น่าลิ้มลอง และอร่อยไม่แพ้อาหารภาคอื่นๆ บทความนี้ได้รวบรวมรายการอาหารท้องถิ่นภาคเหนือ ทั้งที่อาจเคยได้ยิน และไม่เคยได้ยินมาก่อน ให้ทุกคนได้รู้จักและลองไปหาชิมกัน จะได้รู้ว่าอาหารล้านนานั้น ลำขนาด!!  แอ๊บหมู อาหารเหนือท้องถิ่นแต้ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยิน แอ๊บหมู คืออาหารที่นำเนื้อหมูสดผสมกับไข่ไก่ ซึ่งจะต่างจากแอ๊บอาหารเหนือชนิดอื่นๆ คลุกเคล้ากับเครื่องปรุง แล้วห่อด้วยใบตอง จากนั้นนำไปทำให้สุกด้วยการย่างไฟ โดยการใช้ไฟอ่อนๆ จนข้างในสุก และมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน จอผักกาด แกงผักกาดเหนือ หรือ จอผักกาด อาหารพื้นบ้านล้านนา ใช้ผักกาดกวางตุ้งที่กำลังออกดอก…
View Post

ความหมายของแผงสวิตช์คืออะไร

แผงสวิตช์บอร์ด ที่เรามักจะเห็นได้ตามอาคาร ที่พักอาศัยระบบนิติบุคคล ตึกอาคารสูงๆ ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นกิจการ หรือรูปแบบอาคารใด ก็ต้องมีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วรู้ไหมว่า “แผงสวิตช์” หรือ Switchboard panel ส่วนประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้านี้ ทำหน้าที่อะไร และภายในตู้หน้าตาเรียบ ๆ นี้ มีส่วนประกอบอะไรข้างในบ้างนะ
View Post

มีเงินใช้ไม่ขัดสนด้วยวิธีการเก็บเงินตามทฤษฎี 6 Jars

Six Jars Money Management หรือการเก็บเงิน 6 กระปุก เป็นวิธีจัดการการเงิน แบ่งออกเป็น 6 ส่วน โดยการบริหารเงิน คือ การวางแผนการจัดระเบียบ และควบคุมระบบการเงิน ให้ตรงกับกิจกรรมในแต่ละส่วน เช่น กลุ่มเงินสำหรับการลงทุน กลุ่มเงินสำหรับค่าใช้จ่าย กลุ่มเงินสำหรับเก็บออม เป็นต้น ซึ่ง 6 Jars System เป็นหนึ่งในการบริหารเงินเก็บที่คิดค้นโดย T. Harv Eker นักคิดด้านการเงินการลงทุน…
View Post

บูชาท้าวเวสสุวรรณ ข้อห้ามมีอะไรบ้าง อย่าหาทำ ถ้าอยากขอพรสัมฤทธิ์ผล 

กระแสการบูชาท้าวเวสสุวรรณยังคงได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะสายมูที่พลาดไม่ได้เช่นกัน แต่การบูชาท้าวเวสสุวรรณก็มีข้อห้ามเช่นกันนะ หากผู้บูชาท่านเผลอไปทำสิ่งเหล่านี้ อาจไม่เป็นที่ถูกใจองค์เวสสุวรรณ ขอเรื่องอะไรอาจไม่ได้ดั่งหวัง เพราะท่านไม่ปลื้มที่จะให้พรเสียแล้ว ดังนัันใครต้องการจะมู บูชาท้าวเวสสุวรรณให้สัมฤทธิ์ผล จะต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจ มีข้อห้ามอะไรบ้าง และอย่าไปทำผิดเชียวนา เพราะเราเตือนคุณแล้ว  วิธีบูชาท้าวเวสสุวรรณให้ได้ผลจะต้องไม่ทำ 5 ข้อห้ามต่อไปนี้   ห้ามผิดศีล 5  ข้อห้ามข้อแรกที่ผู้บูชาท้าวเวสสุวรรณจะต้องยึดถือเคร่งครัด คือ ห้ามผิดศีล 5 ข้อ เด็ดขาด ได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปด ไม่ดื่มของมึนเมา…
View Post