คู่อาหารอันตราย: อาหารที่ไม่ควรกินคู่กัน มีอะไรบ้าง?

คำถามที่ขึ้นต้นหัวข้อนี้ เริ่มมาจากมีญาติได้แชร์ไวรัล อาหารคู่มรณะ มาให้อ่าน ทำให้ต้องมาหาข้อมูลว่าจริงหรือไม่ กินอาหารเหล่านั้นด้วยกัน แล้วจะอันตรายถึงชีวิตได้อย่างไร

แถมรายการอาหารที่ห้ามกินคู่กัน ก็มีหลายอย่างเลยล่ะ ที่เราเคยกินพร้อมกัน เอาล่ะสิ แบบนี้ก็เกิดผลเสียต่อสุขภาพเราน่ะสิ มิน่าล่ะ เมื่อตอนนั้นเราถึง…บลา ๆ คิดไปไกล โทษไปแล้วสารพัด ทั้งที่ยังไม่รู้แน่ชัดเลย อาการที่เราได้รับ เป็นเพราะมาจากอาหารที่ไม่ควรกินคู่กัน อย่างที่เขาว่ามาหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้น ไปดูเหตุผลกันหน่อยสิว่า ทำไมคู่อาหารเหล่านั้นจึงไม่ควรกินคู่กัน และจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร หากเผลอกินไปแล้ว 

1.ทุเรียน & เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

ในทุเรียนจะมีกำมะถันจำนวนมาก ซึ่งกำมะถันสามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ เมื่อทานคู่นี้ด้วยกัน จะทำให้กำมะถันเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว เมาเร็ว ร่างกายได้รับพลังงานจากกำมะถันมากเกินไป และระดับน้ำตาลในเลือดก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อกำจัดของเสียออก โดยจะมีอาการทากายภาพที่เห็นได้ชัด เช่น หน้าแดง วิงเวียนศีรษะ ชา หน้ามืด อาเจียน หากร่างกายปรับไม่ทัน ไม่มีชุดปฐมพยาบาลช่วยเหลือเบื้องต้น การช่วยเหลือที่ถูกต้องหรือนำส่งโรงพยาบาลช้า อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลย

2. ทุเรียน & น้ำอัดลม

 ไม่ควรทานทุเรียนพร้อมน้ำอัดลม เพราะทั้งน้ำอัดลมและทุเรียน เป็นอาหารที่มีรสชาติหวานจัด และมีปริมาณน้ำตาลสูงมาก เมื่อทานพร้อมกันจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป ยิ่งในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาจจะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง และส่งผลเสียต่อร่างกายได้

3. ทุเรียน & ลำไย

ทั้งทุเรียนและลำไยเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน ที่ให้พลังงานและมีน้ำตาลสูงมาก เมื่อกินคู่กันจะยิ่งเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย จนอาจทำให้เกิดร้อนใน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรเลี่ยงการทานทุเรียนพร้อมลำไย หรือแม้แต่การทานเดี่ยว ๆ ก็ควรควบคุมปริมาณด้วยเช่นกัน 

4. ไข่ต้ม & กาแฟ 

ไข่ต้มกับกาแฟ น่าจะเป็นอาหารเร่งด่วนของใครหลาย ๆ คน รวมถึงเราด้วย เพราะเวลาเช้า ๆ ที่ต้องรีบเร่งไปทำงาน จะดื่มกาแฟอย่างเดียวก็จะไม่อยู่ท้อง และคิดว่าไข่คือแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุด และยังทานง่าย รวดเร็ว แต่อะไรกันนี่ กลายเป็นว่า คาเฟอีนในกาแฟ หรือแม้แต่ในชานั้น จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับสารซัลเฟอร์ที่อยู่ในไข่ต้ม แล้วไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายเราได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ เท่าที่ร่างกายควรจะได้รับ แต่ถ้าจะทานกาแฟกับไข่ ให้เปลี่ยนเป็น กาแฟกับไข่เจียว หรือกาแฟกับไข่ดาว จะดีกว่า 

5. นม & ผัก ที่มีไฟเบอร์สูง 

ไฟเบอร์ คือ เส้นใยอาหารที่ช่วยดูดซับไขมัน ซึ่งเรามักจะได้รับไฟเบอร์จากผักเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อเราทานนมพร้อมกับผัก ไฟเบอร์ในผัก หรือผลไม้ จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและแร่ธาตุของร่างกาย เท่ากับว่าคุณจะไม่ได้รับประโยชน์แคลเซียมจากนมเลย หากคุณทานผักพร้อมกับนม ดังนั้น ควรดื่มนมในเวลาอื่น ที่ไม่ใช่เวลารับประทานอาหาร หรือเมื่อกินผักที่มีไฟเบอร์สูง 

6. ผักโขม ปวยเล้ง & เบคอน

ผักโขม และ ปวยเล้ง เป็นผักที่มีสารอาหาร ธาตุเหล็ก วิตามิน และแคลเซียม ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นขณะที่เบคอนมีกรดฟอสฟอริค ซึ่งตัวกรดฟอสฟอริคนี่เอง ที่จะทำการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม ยิ่งไปกว่านั้น กรอฟอสฟอริคในเบคอน จะมีผลต่อการเปลี่ยนกรดไนตริกที่มีในผักและปวยเล้ง ให้เป็นกรดดินประสิว ที่มีโทษต่อร่างกายแทน และถ้าได้รับในปริมาณสูง หรือสะสมเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดเป็นมะเร็งได้ 

7. ข้าวสวย & เส้นก๋วยเตี่ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 

เชื่อว่าเป็นคู่อาหารที่เคยทานกันแน่นอน ดูเหมือนจะไม่น่าจะเป็นไร แต่ด้วยทั้งคู่ มีคาร์โบไฮเดรตสูง เมื่อรีบประทานร่วมกัน ทำให้ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป และจะกลายเป็นน้ำตาลในภายหลัง ทำให้ร่างกายต้องใช้วิตามิน B1 สำหรับย่อยแป้ง แต่ถ้าปริมาณสูงจนวิตามินบี 1 ย่อยไม่หมด ร่างกายก็จะเกิดความอ่อนเพลีย ง่วงนอน เป็นต้น 

8. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ & อาหารรสเผ็ด

เอาแล้วสิ สมาชิกวงกับแกล้มทั้งหลาย คงไมอยากจะเชื่อและพร้อมตั้งแง่ พร้อมเถียงหัวชนฝาแน่ ๆ เพราะของเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ เป็นของคู่กั๊นคู่กัน กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยมาเนิ่นนาน จู่ ๆ จะมาบอกว่าห้ามกินคู่กัน มันจะได้จั๊งได๋ล่ะ ที่จริงแล้วอาหารรสเผ็ดร้อน จะช่วยกระตุ้นการสูบฉีดและทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ดันมีคุณสมบัติเดียวกัน ดังนั้นเมื่อทานคู่กัน มันจะไปเร่งการไหลเวียนของเลือดมากเกินไป จนอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ

9. กล้วยหอม & นมวัว 

 Milk Shake กล้วยปั่นใส่นม แสนอร่อย และคงเป็นอีกเมนูเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลายคนเหมือนกัน และคงไม่อยากจะเชื่อ เพราะร้านเครื่องดื่มมักจะมีเมนูนี้ อีกทั้งผลิตภัณฑ์นมรสกล้วยหอม วางขายกันเกลื่อนเมือง เดินไปมินิมาร์ทก็เจอ ร้านของชำก็เจอ แต่…ที่ว่าไม่ควรทานคู่กัน มีการให้เหตุผลว่า ทั้งกล้วย และ นมวัว เป็นอาหารที่ค่อนข้างจะย่อยยากอยู่แล้ว ยิ่งทานคู่กันอีก จะยิ่งเพิ่มภาระของระบบย่อยอาหารให้ทำงานหนักขึ้น แต่ถ้าต้องการจะทานจริง ๆ ควรเพิ่มอบเชยลงไปด้วย หรืออาจเปลี่ยนจากนมวัว เป็นนมจากพืชแทน 

ไม่อยากจะเชื่อใช่ไหมล่ะ ว่าคู่อาหารเหล่านี้จะเป็นอาหารที่ไม่ควรทานคู่กัน คู่อาหารหลายรายการที่พอเข้าใจและเคยได้ยินถึงอันตรายมาบ้าง แต่สำหรับคู่อาหารบางคู่ อาจจะต้องศึกษาข้อมูลดี ๆ หรืออาจสอบถามผู้เชี่ยวชาญ อย่างนักโภชนาการ หรือนักวิเคราะห์สารอาหาร เพื่อได้ความข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง จะได้ทานอาหารอร่อย ได้อย่างมีประโยชน์ และไม่เกิดโทษต่อร่างกายตามมา