ใครเคยได้สงสัยไหมว่า คน กับ มนุษย์ แตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาแยกสองคำนี้ตามทัศนะหลักธรรมแบบให้เข้าใจง่าย ๆ กันค่ะ
มนุษย์เป็นคำบาลีหรือสันสกฤต
มนุษย์ อ่านว่า มะ-นุด
มนุษย์มาจากคำว่า มนุสฺส อ่านว่า มะ-นุด-สะ เป็นคำบาลี
รากศัพท์จาก มน (ใจ) + อุสฺส (สูง) : ใจสูง
มนุษย์ หมายถึง ผู้มีใจสูง
คน คือ อาการกิริยาที่ทำการกวนเพื่อรวมส่วนผสมทุกสิ่งให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน
คน : แหล่งรวมทุกสิ่งทั้งดีและไม่ดีผสมปนเปกันจนกลายมาเป็นกาย ๆ หนึ่ง
ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่ คือ คน
แล้วจะทำอย่างไรให้เป็น มนุษย์ ? ต้องรักษา ศีล 5 ใช่ไหม?
ศีล แปลว่า ปกติ ดังนั้น การรักษาศีล 5 คือ ดำรงตนให้เป็นคนปกติ
ทำไม ศีล 5 ถึงเป็นการทำตนให้เป็นคนปกติ
เพราะคนก็คือสัตว์ประเภทหนึ่ง แต่ ศีล ช่วยแยก คน ออกจากสัตว์เดรัจฉาน … อย่างไร?
การรักษาศีล คือ การควบคุมตนเองไม่ให้กระทำตามสัญชาติญาณของสัตว์ทั่วไป เช่น การฆ่าสัตว์ : สัตว์เดรัจฉานฆ่าและกินสัตว์อื่นเป็นอาหารตามสัญชาติญาณเพื่อความอยู่รอด , การขโมย : แมวจรเข้าไปขโมยปลาในบ้านคนเพราะความหิว , การผสมพันธุ์ของสัตว์หลายชนิดที่ ลูก แม่ พ่อ ไม่มีแบ่งแยก แค่ทำไปตามสัญชาติญาณ เป็นต้น
เรามาดูเหตุผลที่ศีลช่วยทำให้คนต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ด้วยการเปรียบเทียบต่อไปนี้
- รักษาศีลครบ 5 ข้อ การเป็นคน 100% : ปกติ
- รักษาศีล 4 ข้อ เหลือการเป็นคน 80% ใกล้เคียงความเป็นสัตว์ไป 20%
- รักษาศีล 3 ข้อ เหลือการเป็นคน 60% ใกล้เคียงความเป็นสัตว์ไป 40%
- รักษาศีล 2 ข้อ เหลือการเป็นคน 40% ใกล้เคียงความเป็นสัตว์ไป 60%
- รักษาศีล 1 ข้อ เหลือการเป็นคน 20% ใกล้เคียงความเป็นสัตว์ไป 80%
- ไม่มีศีลสักข้อเลย ความเป็นสัตว์เดรัจฉาน 100% ไม่เหลือความเป็นคนเลย
การมีศีล 5 จึงเป็นการควบคุมและรักษาตนให้แยกออกจากความเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างชัดเจน แล้วจะทำอย่างไรให้เป็นมากกว่าคน ทำอย่างไรให้เป็น มนุษย์ ผู้มีใจสูง?
ศีล 8 ต่างจาก ศีล 5 อย่างไร
ศีล 8 หรือ ศีลอุโบสถ จะเพิ่มจากเดิมของศีล 5 มาอีก 3 ข้อ ซึ่งจะช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น อันได้แก่
- ประพฤติพรหมจรรย์ คือ การงดเว้นจากการเสพเมถุน งดเว้นจากกามอันเป็นสัญชาติญาณทางเพศของสัตว์โลก ทำให้มีความสงบในการศึกษาและปฏิบัติธรรมที่สูงยิ่งขึ้น
- งดเว้นจากการบริโภคในยามวิกาล คือ ตั้งแต่หลังเที่ยงไปจนถึงรุ่งอรุณ เพื่อละเว้นจากรสตัณหา และในทางทัศนะการปฏิบัติทางศาสนานั้น เล็งเห็นว่า อาหารเช้าเป็นการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย อาหารกลางวันจะช่วยในการเจริญเติบโตและบำรุงร่างกายเพียงพอแล้ว ในขณะที่อาหารเย็นเป็นส่วนเกินที่ไม่จำเป็น และการทานหลังจากเวลานั้นเป็นการเพิ่มกิเลสให้ตนเอง ด้วยความอยาก คือ การไม่รู้จักอิ่ม ทั้งที่ร่างกายไม่ได้ต้องการ แต่ใจก็อยากและขวนขวายหามาอย่างไม่สิ้นสุด ก่อให้เกิดทุกข์โทษภัยต่าง ๆ จากการผิดศีลไปเบียดเบียนสัตว์อื่นเพื่อปรนเปรอและสนองความอยากของตนเท่านั้น และยังเป็นเพิ่มขยะอาหารจากกินเหลือกลายเป็นมลพิษและย้อนกลับมาทำร้ายเราและทุกชีวิตในที่สุด นอกจากนี้ ได้มีผลวิจัยทางวิชาการออกมาแล้วว่า การทานอาหารเพียงมื้อเดียว ดีต่อสุขภาพ และทำให้ร่างกายเจ็บป่วยน้อยกว่าการทานอาหารหลายมื้อ
- งดเว้นจากการดูฟ้อน ร้องรำ การละเล่นต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงการประโคมกายด้วยเครื่องประทินโฉม ของหอม เครื่องประดับต่าง ๆ เพื่อละจากการรับกิเลสด้วยรูป กลิ่น เสียง เพราะเมื่อดูสิ่งสวยงามก็ติดในรูปโฉม กลิ่น หรือเสียงอันเสนาะหู ที่ก่อให้เกิดความอยาก ตัณหา ต้องการสวยอย่างเขา อยากครองครองเขาเพราะรูปงาม ชอบกลิ่นหอมอยากได้ จนทำให้เกิดทุกข์ อยากได้ อยากมี ดิ้นรน เกิดกิเลส และก่อทุกข์ให้ตนเอง ทำให้ตนลำบาก หรือต้องไปเบียดเบียนคนและสัตว์อื่น เพราะกิเลสนั้น
- งดเว้นการนอนบนที่อ่อนนุ่ม เพราะจะทำให้เกิดความสบายจนกลายเป็นความเกียจคร้าน เพราะติดอยู่กับความสัมผัสอันที่อ่อนนุ่ม ก่อให้เกิดกิเลสและกามกำเริบในที่สุด
การรักษาศีล 8 เป็นการมุ่งเน้นยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ซึ่งพัฒนามาจากการรักษาศีล 5 ด้วยการละเว้นการเสพเมถุนทุกประเภท เพื่อไม่ให้กามกำเริบ เรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ให้มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องเยี่ยงพรหม เป็นจริยธรรมที่อยู่เหนือกว่าแนวทางการปฏิบัติของคนทั่วไป
สรุป
หากจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ การรักษาศีล 5 เป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกเพื่อเตรียมความพร้อม เหมือนเราล้างหน้า อาบน้ำ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออก ส่วนศีล 8 ที่เพิ่มมาอีก 3 ข้อ เป็นการลงครีมบำรุงร่างกายที่สะอาดสะอ้านรออยู่แล้ว ทำให้ใบหน้าและร่างกายสวยสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คือ เป็น “มนุษย์” ผู้มีใจสูง” กว่า “คน” นั่นเอง