การได้เห็นลูกน้อยเริ่มก้าวเดินเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของพ่อแม่ การเดินเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระที่กำลังเติบโตและการเริ่มต้นสำรวจโลกในแบบใหม่
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่หลายคนอาจสงสัยว่าลูกควรเริ่มเดินเมื่อไหร่ และพวกเขาสามารถช่วยสนับสนุนพัฒนาการในขั้นตอนนี้ได้อย่างไร
บทความนี้จะพาคุณสำรวจช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดิน ปัจจัยที่อาจส่งผล และเคล็ดลับที่สามารถช่วยกระตุ้นให้ลูกน้อยก้าวเดินอย่างมั่นใจ
เด็กเดินได้ช้าสุดกี่เดือน
การเรียนรู้การเดินของเด็กแต่ละคนสามารถแตกต่างกันอย่างมาก เด็กส่วนใหญ่มักเริ่มเดินได้เมื่ออายุประมาณ 9-18 เดือน อย่างไรก็ตาม หากเด็กเดินได้ช้ากว่านี้
อาจมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผล เช่น พันธุกรรม การพัฒนากล้ามเนื้อ หรือสิ่งแวดล้อมที่เด็กอยู่ หากเด็กอายุเกิน 18 เดือนแล้วยังไม่เริ่มเดิน ควรพิจารณาปรึกษากุมารแพทย์เพื่อประเมินว่าเด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสมหรือไม่
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเดินของเด็ก
พันธุกรรม
เด็กบางคนอาจมีประวัติครอบครัวที่เดินช้ากว่าปกติ ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีปัญหาทางสุขภาพ
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
การพัฒนากล้ามเนื้อขาและแกนกลางลำตัวมีผลต่อความสามารถในการทรงตัวและการเดิน
สิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดู
เด็กที่มีโอกาสคลาน เล่น และฝึกการทรงตัวมาก จะมีแนวโน้มเริ่มเดินได้เร็วกว่าเด็กที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในที่นั่งหรือเปลเด็ก
สุขภาพและภาวะทางการแพทย์
เด็กที่มีภาวะทางการแพทย์ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือภาวะอื่นๆ อาจทำให้การพัฒนาการเดินช้าลง
เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์
หากเด็กอายุเกิน 18 เดือนแล้วยังไม่เริ่มเดินหรือมีปัญหาด้านความสมดุลหรือท่าทางผิดปกติจะสังเกตได้ว่าเด็กไม่พยายามยืนหรือทรงตัวเลยในกรณีนี้แนะนำให้รีบเข้าพบหรือปรึกษาแพทย์
ทำยังไงให้ลูกเดิน
การช่วยให้ลูกเริ่มเดินไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบร้อน แต่การสนับสนุนที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็กได้ การช่วยให้ลูกเดินสามารถทำได้ดังนี้:
ให้โอกาสเด็กฝึกคลานและนั่ง
การคลานเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและพัฒนาความสมดุล ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเดิน
สนับสนุนให้ยืนด้วยตัวเอง
คุณสามารถช่วยให้ลูกฝึกยืนโดยให้เขาเกาะเฟอร์นิเจอร์ที่มั่นคง เช่น โซฟาหรือโต๊ะเล็กๆ
ใช้อุปกรณ์เสริมอย่างเหมาะสม
ใช้รถหัดเดินที่ปลอดภัยและเหมาะสม หรือช่วยจับมือเขาเดินไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรพึ่งพารถหัดเดินมากเกินไปเพราะอาจทำให้เด็กไม่ได้ฝึกการทรงตัวด้วยตัวเอง
จัดพื้นที่ปลอดภัยสำหรับฝึกเดิน
ให้ลูกมีพื้นที่กว้างพอและปลอดภัยในการทดลองเดิน เช่น ห้องที่ไม่มีมุมแหลมหรือวัตถุที่อาจเป็นอันตราย
กระตุ้นให้ลูกเดินหาสิ่งที่เขาสนใจ
วางของเล่นหรือสิ่งที่ลูกชอบในระยะที่เขาต้องเดินไปถึง จะช่วยกระตุ้นความอยากเดิน
ให้กำลังใจและคำชมเชย
เมื่อเด็กพยายามยืนหรือก้าวเดิน ควรให้คำชมเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ
จะสอนลูกเดินยังไง
ขั้นตอนที่ 1: เสริมสร้างความแข็งแรง
- ให้ลูกได้เล่นบนพื้นเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อแกนกลางและขา
- ฝึกให้ลูกนั่ง ยืน และทรงตัว
ขั้นตอนที่ 2: ฝึกการทรงตัว
- ช่วยให้ลูกยืนโดยจับมือทั้งสองข้าง
- ใช้ของเล่นดึงดูดให้ลูกเอื้อมหรือย้ายตำแหน่งเพื่อฝึกการทรงตัว
ขั้นตอนที่ 3: ฝึกการก้าวเดิน
- ช่วยจับมือให้ลูกเดินไปด้วยกันในระยะสั้น
- วางของเล่นไว้ในระยะที่ลูกต้องก้าวไปหา
ขั้นตอนที่ 4: ให้เด็กลองเดินด้วยตัวเอง
- เมื่อเด็กเริ่มทรงตัวได้ดีแล้ว ให้ลองปล่อยมือและสังเกตการเดินของเขา
- ให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องเมื่อเขาลองเดินด้วยตัวเอง
ข้อควรหลีกเลี่ยง
- ไม่ควรกดดันให้เด็กเดินเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้เด็กเกิดความกลัว
- หลีกเลี่ยงการใช้รถหัดเดินที่ไม่เหมาะสมหรือไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย
สรุป
การเดินของเด็กเป็นกระบวนการธรรมชาติที่ต้องใช้เวลาและความอดทน เด็กแต่ละคนมีจังหวะการพัฒนาของตัวเอง การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและให้การสนับสนุนที่เหมาะสม
จะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการเดินได้อย่างมั่นคง อย่าลืมว่า การให้ความรักและกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการช่วยให้เด็กเรียนรู้และก้าวเดินได้ในที่สุด