karate-mma-and-fitness-with-a-teacher-and-student-2023-11-27-04-53-55-utc (1)

ยูโด vs. ยิวยิตสุ : อันตายแค่ไหน?เหมาะสำหรับเด็กไหม?

เปรียบเทียบยูโดและยิวยิตสุ ศิลปะการต่อสู้จากญี่ปุ่น ยิวยิตสุเน้นการป้องกันตัวด้วยเทคนิคล็อกข้อ ขณะที่ยูโดเป็นกีฬาที่ปลอดภัยกว่า มุ่งเน้นวินัยและพัฒนาร่างกาย เหมาะสำหรับเด็กๆ
Total
0
Shares

ศิลปะการต่อสู้ได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมหลายแห่งมาหลายศตวรรษ โดยมีประโยชน์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ ในบรรดาศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันสองสไตล์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นคือ ยูโด และ ยิวยิตสุ แม้ว่าทั้งสองจะมีรากฐานร่วมกันแต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านเทคนิค ปรัชญา และจุดประสงค์ 

การเข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์และความแตกต่างที่สำคัญระหว่างศิลปะการต่อสู้ทั้งสองจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแบบไหนเหมาะสมที่สุดสำหรับเป้าหมายต่างๆ 

ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันตัว การแข่งขันกีฬา หรือการพัฒนาตนเอง บทความนี้จะสำรวจถึงต้นกำเนิด ความแตกต่าง และความเหมาะสมของยูโดและยิวยิตสุ พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเลือกศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดสำหรับบุคคลต่างๆ รวมถึงเด็กๆ และผู้ฝึกฝนในประเทศญี่ปุ่น

ศิลปะการต่อสู้ชนิดไหนเกิดขึ้นมาก่อน

ยิวยิตสุ (Jujutsu) เกิดก่อน ยูโด (Judo) โดยยิวยิตสุเป็นศิลปะการต่อสู้ของนักรบซามูไรในญี่ปุ่นที่เน้นการใช้เทคนิคทุ่มและล็อกข้อเพื่อป้องกันตัว ส่วนยูโดพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 19 โดย จิโกโร่ คาโน โดยปรับจากยิวยิตสุให้ปลอดภัยและเหมาะกับการฝึกเป็นกีฬาแข่งขัน

ยิวยิตสุ (Jiu Jitsu)

ยิวยิตสุ (หรือ Jujutsu) เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น โดยมีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ (1603-1868) ยิวยิตสุเป็นการต่อสู้ที่ออกแบบมาเพื่อการป้องกันตัวในสนามรบ โดยเน้นการใช้เทคนิคการทุ่ม การล็อกข้อ และการตีที่ทำให้ศัตรูเสียการทรงตัวและตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้

หลักการของยิวยิตสุคือการใช้แรงจากคู่ต่อสู้ให้เป็นประโยชน์ เช่น การใช้การหมุนตัวหรือการป้องกันตัวจากการโจมตี โดยการใช้ทักษะการควบคุมร่างกายของคู่ต่อสู้มากกว่าการใช้พลัง

ยิวยิตสุถูกพัฒนาขึ้นในช่วงที่ทหารซามูไรในญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการต่อสู้ในระยะใกล้ เมื่อพวกเขาต้องสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธ เช่น ดาบ หรือหอก การฝึกยิวยิตสุช่วยให้ซามูไรสามารถป้องกันตัวจากการโจมตีและสามารถควบคุมคู่ต่อสู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังมากเกินไป

ยูโด (Judo)

ยูโด (หรือ Judo) เป็นศิลปะการต่อสู้ที่พัฒนามาจากยิวยิตสุ โดย จิโร่ คามาฮามะ (Jigoro Kano) ผู้ก่อตั้งยูโดในปี 1882 ซึ่งได้ดัดแปลงและพัฒนาเทคนิคจากยิวยิตสุเพื่อนำมาใช้ในการแข่งขันและเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สามารถฝึกฝนได้ในโรงเรียน โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง

ยูโดเน้นการฝึกทักษะในการทุ่มคู่ต่อสู้และการล็อกข้อ ในรูปแบบที่เน้นการใช้พลังของคู่ต่อสู้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งการใช้ทักษะในการควบคุมคู่ต่อสู้มีความสำคัญในยูโดเช่นเดียวกับยิวยิตสุ แต่ยูโดไม่ได้เน้นการต่อสู้ถึงความรุนแรงหรือทำลายล้างเหมือนกับยิวยิตสุ

การฝึกยูโดได้รับการพัฒนาให้เป็นกีฬาและวิทยาศาสตร์การต่อสู้ที่สามารถแข่งขันได้ โดยการต่อสู้ในยูโดจะมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและไม่อนุญาตให้มีการทำร้ายร่างกายของคู่ต่อสู้ ดังนั้นยูโดจึงได้รับการยอมรับในระดับโลกเป็นกีฬาในการแข่งขัน

ความแตกต่างระหว่างยูโด กับ ยิวยิตสุ

ถึงแม้ว่ายิวยิตสุและยูโดจะมีต้นกำเนิดที่คล้ายกันและใช้ทักษะการควบคุมคู่ต่อสู้ แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านเทคนิคและวัตถุประสงค์:

เทคนิค

ยิวยิตสุเน้นการใช้ท่าทางที่มีความหลากหลายและรุนแรง เช่น การล็อกข้อ การทุ่ม และการตี ยูโดเน้นการทุ่มและการควบคุมคู่ต่อสู้โดยการใช้พลังจากคู่ต่อสู้ให้เป็นประโยชน์

วัตถุประสงค์

ยิวยิตสุออกแบบมาสำหรับการป้องกันตัวและการต่อสู้ในสนามรบยูโดถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นกีฬาและการฝึกฝนเพื่อพัฒนาร่างกายและจิตใจ

การแข่งขัน

ยิวยิตสุไม่ได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับการแข่งขันยูโดมีการแข่งขันที่มีมาตรฐานและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนในการตัดสินผล

อะไรดีกว่าสำหรับเด็กๆ ยูโด กับ ยิวยิตสุ?

portrait-of-girl-celebrating-trophy-in-garden-2024-12-13-20-24-54-utc (1)

การเลือกศิลปะการต่อสู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ความสนใจ และจุดมุ่งหมายในการฝึกฝน

ยูโด

ยูโดเป็นกีฬาที่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ เพราะเน้นการฝึกฝนในรูปแบบที่เป็นมิตรและสนุกสนาน การฝึกยูโดช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง การทำงานเป็นทีม และการควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงและมีความยืดหยุ่น

ยิวยิตสุ

ยิวยิตสุอาจจะมีการฝึกที่หนักหน่วงและรุนแรงกว่า ยูโดเหมาะสำหรับเด็กที่มีความสนใจในการเรียนรู้การป้องกันตัวและการใช้ทักษะในการควบคุมคู่ต่อสู้ในสถานการณ์จริง

อะไรเป็นที่นิยมมากกว่าในประเทศญี่ปุ่น

ในประเทศญี่ปุ่น, ยูโด เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยเฉพาะในระดับการแข่งขันระดับโลก เช่น โอลิมปิก ส่วน ยิวยิตสุ ถึงแม้จะเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีความสำคัญและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับยูโดในญี่ปุ่น

ศิลปะไหนอันตรายกว่า

ยิวยิตสุ (Jujutsu)

เน้นการป้องกันตัวในสถานการณ์จริงยิวยิตสุพัฒนาขึ้นในยุคที่การต่อสู้แบบดั้งเดิมมุ่งเน้นการเอาชนะศัตรูในสนามรบเทคนิคส่วนใหญ่ เช่น การจับล็อก การบิดข้อ และการบีบรัด ถูกออกแบบให้ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือหมดสภาพอย่างรวดเร็วบางเทคนิคอาจรุนแรงถึงขั้นสร้างความเสียหายต่อร่างกาย เช่น การบิดข้อต่อหรือรัดคอ

หมาะกับการต่อสู้ในสถานการณ์จริงยิวยิตสุไม่มีข้อจำกัดหรือกติกาเหมือนกีฬา จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บสูงหากไม่ได้ฝึกในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยการฝึกต้องมีความระมัดระวัง และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

ยูโด (Judo)

พัฒนาจากยิวยิตสุในรูปแบบที่ปลอดภัยกว่ายูโดถูกออกแบบโดย ดร.จิโกโร่ คาโน เพื่อเป็นกีฬาที่สามารถฝึกฝนได้โดยไม่เป็นอันตรายมีการปรับปรุงเทคนิคให้เหมาะสม เช่น การทุ่ม การจับล็อก และการล้มอย่างปลอดภัย

two-young-judo-fighters-in-kimono-training-martial-2024-10-18-06-18-37-utc (1)

มีกฎเกณฑ์ที่ควบคุมความปลอดภัย

การแข่งขันยูโดมีข้อกำหนดชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ เช่น ห้ามล็อกข้อต่อเกินขอบเขต หรือการทุ่มที่อาจทำให้เกิดอันตรายการฝึกมีการสอนวิธีล้มเพื่อลดการกระแทก

เน้นความเป็นกีฬา

ยูโดมุ่งพัฒนาความแข็งแรง สมาธิ และการควบคุมตัวเอง มากกว่าการสร้างความเสียหายแก่คู่ต่อสู้

เปรียบเทียบความอันตราย

ยิวยิตสุ

มีความอันตรายมากกว่า เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสถานการณ์จริงเทคนิคไม่มีการลดความรุนแรง อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บถาวรได้หากใช้อย่างไม่เหมาะสม

ยูโด

มีความปลอดภัยกว่า เนื่องจากมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนการบาดเจ็บมักเกิดจากอุบัติเหตุหรือการฝึกที่ไม่ถูกวิธีหากพูดถึงความอันตราย ยิวยิตสุถือว่าเสี่ยงกว่า เนื่องจากมุ่งเน้นการป้องกันตัวและการใช้เทคนิคที่สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วขณะที่ยูโดมีความปลอดภัยมากกว่า 

เพราะมีกฎเกณฑ์ที่ควบคุมและเน้นความเป็นกีฬาการเลือกฝึกขึ้นอยู่กับเป้าหมายของผู้ฝึก หากต้องการป้องกันตัว ยิวยิตสุอาจเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการเสริมสร้างร่างกายและฝึกวินัย ยูโดเป็นตัวเลือกที่ดีและปลอดภัยกว่า

สรุป

ทั้ง ยูโด และ ยิวยิตสุ เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีรากฐานจากญี่ปุ่น และทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันในด้านเทคนิคและวัตถุประสงค์ในการฝึกฝน ยูโดมีการพัฒนาขึ้นเป็นกีฬาและเหมาะสำหรับเด็กๆที่ต้องการฝึกฝนร่างกายและจิตใจ 

ในขณะที่ยิวยิตสุมีความมุ่งมั่นในการฝึกฝนทักษะการป้องกันตัวและการใช้พลังของคู่ต่อสู้ให้เป็นประโยชน์ การเลือกว่าจะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ชนิดใดขึ้นอยู่กับความสนใจและจุดมุ่งหมายของผู้ฝึกฝน

 

You May Also Like

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้างดน้ำตาล 14 วัน

โดยปกติร่างกายต้องการน้ำตาลเพียง 24 กรัม / วัน เท่านั้น หรือประมาณ 4-6 ช้อนชา (เทียบเท่าน้ำผลไม้ประมาณ 200 มิลลิลิตร) แต่ถ้าได้รับปริมาณที่มากไป จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว เกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง และประสิทธิภาพในการผลิตฮอร์โมนอินซูลินลดลง น้ำตาลแบ่งได้เป็น 2 ประเภท  น้ำตาลธรรมชาติ ที่ได้จากผัก ผลไม้ต่างๆ (ฟรุกโตส) และน้ำตาลในนม (แล็กโทส) น้ำตาลสังเคราะห์ หรือน้ำตาลที่ปรุงแต่ง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม…
View Post

รู้จักไซโคพาธ โรคขาดความสำนึกผิด

ไซโคพาธ (Psychopaths) โรคขาดความสำนึกผิด เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง มุ่งเน้นแต่เป้าหมายของตนเอง และทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น โดยไม่สนแม้จะต้องทำร้ายใคร หรือจะมีผลกระทบกับใครบ้าง Psychopaths หรือ ไซโคพาธ แปลว่า คนโรคจิต  และถ้าจะให้ความหมายคำว่า โรคจิต แปลว่า โรคทางจิตใจที่มีความผิดปกติของความรู้สึก ความคิด อารมณ์ หรือโรคจิตพฤติกรรมรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมสติได้ (ความหมายจาก พจนานุกรมไทยราชบัณฑิตยสถาน ) เช่น ประสาทหลอน วิกลจริต หลงผิด (โรคจิต ภาษาอังกฤษ psychosis…
View Post

โยคะคนท้อง กายบริหารที่ช่วยให้คุณแม่แข็งแรงและคลอดง่าย

“โยคะ“ (YOGA) ศาสตร์แห่งการผนวก ร่างกาย จิตใจ และ วิญญาณ หลอมรวมกันอย่างสมดุล เป็นการฝึกกายบริการ ควบคู่ไปกับการฝึกหายใจ และกระบวนการความคิด ให้จดจ่อกับลมหายใจเข้า-ออก ก่อให้เกิดสมาธิ สามารถทำความเข้าใจถึงระบบร่างกายและความเป็นตัวตน โยคะสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย และทุกที่โดยไม่จำกัด เพราะโยคะเป็นการออกกำลังกาย ที่ใช้พื้นที่ไม่มาก และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานที่ที่ต้องการ นอกจากนั้น โยคะ เป็นกายบริหารที่ช่วยยืดเส้นภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี เป็นกีฬาที่นุ่มนวล แก้อาการออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็สามารถเล่นท่าโยคะได้ โดยไม่มีอันตราย โยคะสำหรับคนท้องในปัจจุบัน ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีท่าโยคะคนท้อง ที่สามารถเล่นได้โดยไม่มีอันตรายต่อแม่และเด็กในท้อง…
View Post

คู่อาหารอันตราย: อาหารที่ไม่ควรกินคู่กัน มีอะไรบ้าง?

คำถามที่ขึ้นต้นหัวข้อนี้ เริ่มมาจากมีญาติได้แชร์ไวรัล อาหารคู่มรณะ มาให้อ่าน ทำให้ต้องมาหาข้อมูลว่าจริงหรือไม่ กินอาหารเหล่านั้นด้วยกัน แล้วจะอันตรายถึงชีวิตได้อย่างไร
View Post

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรากินเร็วเกินไป 

นิสัยกินเร็ว กินไว กินข้าวกับเพื่อนทีไร เพื่อนต้องยกธงยอมแพ้ ใช่คุณหรือเปล่า? รู้ไหมว่า การกินเร็วเกินไปส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และอาจทำให้คุณกำลังเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ตามมาได้    ร่างกายมีกลไกลการรับรู้ความอิ่ม  ร่างกายของคนเราจะมีกลไกในการรับรู้ความอิ่ม เพื่อให้ร่างกายรับอาหารในปริมาณที่เหมาะสม โดยขณะที่เรากินอาหาร สมองจะได้รับสัญญาณจากกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งกว่าสมองจะสั่งการให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม ต้องใช้เวลานานกว่า 20 นาที ดังนั้น เมื่อคนกินเร็วเกินไป ทำให้สมองสั่งการให้ร่างกายรู้สึกอิ่มไม่ทัน จึงทำให้คนกินเร็วยังรู้สึกว่าไม่อิ่ม จึงกินต่อไปเรื่อย ๆ กลายเป็นกินอาหารในปริมาณที่มากเกินไปในที่สุด และยังก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาอีกด่วย …
View Post

เทศกาลกินเจ 2565 ตรงกับวันไหน และกินเจกับมังสวิรัติต่างกันอย่างไร

ใกล้ถึงเทศกาลกินเจ เทศกาลบุญใหญ่ประจำปีอีกแล้ว โดยเทศกาลกินเจ ปี 2565 ตรงกับวันที่ 26 ต.ค. – 4 ต.ค.65 ซึ่งเทศกาลกินเจประวัติมีมานาน ตั้งแต่ 400 ปีที่แล้ว เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 โดยคำว่า “เจ” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว หมายถึง การรักษาศีล 8 และการละเว้นการกินเนื้อสัตว์ เพื่อถวายเป็นกุศลแก่ราชาธิราชทั้ง 9 พระองค์…
View Post